ส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ 1.Collagen peptide 1.1 คอลลาเจน คือ โปรตีนธรรมชาติในร่างกาย มีสารสำคัญ 2 ชนิด คือ proteoglycan และ glycosaminoglycans จัดเป็นโปรตีนเนื้อเยื่อเส้นใยชนิดหนึ่งที่มีความ ยืดหยุ่น เรียกว่า Elasticfiberซึ่งประกอบไปด้วย aminoacidหลายชนิดที่สำคัญ มีองค์ประกอบส่วนหญ่ คือ Glycene,Proleneและ Hydroxyprolene ซึ่งความ สำคัญยิ่งต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายมากมายเช่น กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก กระดูกอ่อน ข้อ เหงือก ฟัน ตา หลอดเลือด ผิวหนัง และเนื้อเยื่อที่เกี่ยวกับการยึดเหนี่ยว( ligaments ) คอลลาเจนทำหน้าที่เชื่อมเซลล์ในร่างกายเข้าด้วยกัน ป้องกันอวัยวะภายในร่างกายและเชื่อมอวัยวะต่างๆให้อยู่ด้วยกัน ในผิวหนังชั้นหนังแท้ ( Dermis )จะประกอบด้วยคอลลาเจนมากถึง 75% เมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจนจะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลงเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย เช่น รอยตีนกา กล้ามเนื้อรอบดวงตาเหี่ยวย่นผู้หญิงแก่ง่ายกว่าผู้ชาย อัตราการลดลงอย่างต่อเนื่องของคอลลาเจนในผิวหนังชั้นหนังแท้ จะมีผลให้ผิวพรรณค่อยๆ สูญเสียความชุ่มชื้น นุ่มเนียนและยืดหยุ่น ผิวที่เคยสวยเต่งตึง นุ่มนวล ค่อยๆ แห้งกร้าน ผิวจะยุบตัวลงทุกปีทุกปีทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและตีนกา กว่าคุณจะอายุ 45 ปี ระดับคอลลาเจนในชั้นผิวลดลงไปแล้วกว่า 30% การรับประทานคอลลาเจนอย่างสมํ่าเสมอ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และความหนาแน่นของผิวหนัง ซึ่งช่วยลดริ้วรอบตื้นๆได้เป็นอย่างดี 2. Pomegranate extract 2.1 สารสกัดจากผลทับทิม ( Pomegranate extract ) อีกหนึ่งผลไม้หายากและมีราคาค่อนข้างสูงโดยสายพันธุ์ที่ดีที่สุดของโลกคือ ทับทิมสายพันธุ์เปอร์เซีย ชาวเปอร์เซียน ยกย่องให้เป็น “ ผลไม้จากสวรรค์ ” เนื่องจาก ผลทับทิมให้ประโยชน์มากมาย รวมทั้งยังมีผลการวิจัยทางการแพทย์ทั่วโลกยืนยันถึงผลลัพธ์เชิงสุขภาพที่ได้จากการรับประทาน 3. Fructooligosaccharide (FOS) 3.1 ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide; FOS) เป็นเส้นใยอาหาร ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพลำไส้และร่างกายคือ เป็นอาหารสำหรับจุลินทรีย์สุขภาพโดยเฉพาะ จึงช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์สุขภาพ และมีผลลดจำนวนจุลินทรีย์ก่อโรค และสารก่อพิษหรือก่อมะเร็งที่มันผลิตขึ้นมา เช่น แอมโมเนีย ช่วยเพิ่มมวลอุจจาระ ทำให้อุจจาระชุ่มนํ้า ขับถ่ายออกได้ง่ายขึ้น- ทำให้การเคลื่อนไหวและบีบตัวของลำไส้ดีขึ้น กากอาหารถูกขับเคลื่อนลงไปและขับถ่ายออกง่ายขึ้น มีกลิ่นเหม็นลดลง ป้องกันกระดูกพรุน โรคโลหิตจาง โดยช่วยเพิ่มการดูดกลับของแร่ธาตุสำคัญ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และเหล็ก ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล โดยหลังจากถูกย่อยสลายด้วยแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้จะให้กรดไขมันสายสั้น ซึ่งจะ ช่วยยับยั้งการสร้างโคเลสเตอรอลที่ตับ ช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาว ฟื้นระบบภูมิต้านทานในลำไส้ใหญ่ ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยยับยั้งการสร้างสารก่อมะเร็ง ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (FOS) จัดเป็นพรีไบโอติกช่วยปรับสมดุลปริมาณแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ (แบคทีเรียโพรไบโอติกส์) 4. Co Enzyme Q10 4.1 ประโยชน์ของโคเอนไซม์ คิวเท็น 1. ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ 2. ช่วยเพิ่มประสิทธิการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ 3. ช่วยยับยั้งการจับตัวเป็นก้อนแข็งของเลือด 4. ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ 5. มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ 6. ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ 7. ช่วยลดเลือนริ้วรอย 8. ช่วยลดผลข้างเคียงของการใช้ยาลดไขมัน 9. ช่วยลดคอเรสเตอรอลในหลอดเลือด 10. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดันโลหิตสูง 5.1 L-Glutathione( แอล-กลูต้าไธโอน ) เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine ( ซิสเทอีน ) , Glycine ( ไกลซีน ) และ Glutamic acid ( กลูตามิกแอซิต ) พบมากที่ตับของมนุษย์ แอลกลูต้าไธโอน จัดเป็นกรดอะมิโนที่สำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระ และยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกระ, ฝ้า และจุดด่างดำ นอกจากนี้พบว่าผู้ที่มีสภาพการทำงานของตับบกพร่อง ผู้ที่ทานแอลกอฮอล์เป็นประจำ รวมทั้งผู้ป่วยโรคตับอักเสบและตับแข็ง จะพบ Glutathione( กลูต้าไทโอน ) ในตับมีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ประโยชน์ได้ จำเป็นต้องได้รับเสริมเข้าไปโดยตรงจากแหล่งอาหารอื่นๆ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์บางชนิด รวมทั้งที่อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วย 6. Vitamin C 6.1 ประโยชน์หลักๆ ของวิตามิน ซี 6.2. ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนัง 6.3 ลดอาการอักเสบของผิว การเกิดสิว และช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น 6.4 ลดการทำงานของเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีผิวคลํ้า4. ลดริ้วรอย จุดด่างดำจากรอยแผลเป็น รอยสิว นอกจากนี้ยังช่วยปรับสีผิวที่คลํ้าจากแสงแดดให้ดูกระจ่างใสมากขึ้น เนื่องจากวิตามินซีช่วยให้ร่ายกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยไปเสริมสร้างผนังเซลล์ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง แผลจึงหายได้เร็วขึ้น ในผู้ที่ขาดวิตามินซีบาดแผลที่ผิวหนังจะหายช้ากว่าปกติ อย่างไรก็ดี ควรใช้วิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสม และต่อเนื่องสมํ่าเสมอ เพราะต้องเข้าใจว่าวิตามินซีเป็นวิตามินชนิดละลายในนํ้าได้ร่างกายไม่สามารถเก็บสะสมได้ตลอดเวลา ดังนั้นจำเป็นต้องเติมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายเป็นประจำ 7. L-Carnitine L-Tartrate 7.1 ประโยชน์ของ L-Carnitine ในกลุ่มคนที่มีความต้องการลดนํ้าหนักหรือลดไขมันสะสม L-Carnitine เป็นทางเลือกที่ดีของผู้ที่ประสงค์จะลดนํ้าหนักด้วยสารจากธรรมชาติ จากผลการทดลอง นำเอาเซลล์ไขมัน ( Adipose Tissue ) ของคนอ้วนมาทำการวิเคราะห์พบว่าในเนื้อเยื่อดังกล่าวแทบจะไม่มี L-Carnitine เหลืออยู่เลย และมีผลการวิจัยที่ยืนยันว่า L-Carnitine มีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน และลดนํ้าหนักลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ในหมู่ของนักกีฬายกนํ้าหนักหรือผู้ชายที่ออกกำลังกายยกนํ้าหนัก จะใช้ L-Carnitine เพื่อต้องการเสริมสร้างกล้ามให้ได้รูปชัดเจนขึ้น เนื่องจากการมีการนำไขมันจากบริเวณดังกล่าวไปใช้เผาผลาญเป็นพลังงานเพิ่มสมรรถภาพในการ ออกกำลังกาย และช่วยเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อ ทำให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นทำให้ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ ( Triglycerides ) อยู่ในระดับตํ่าและช่วยเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ ( HDL-คลอเลสเตอรอล ) ในเลือด 8. Lycopene 8.1 ประโยชน์ของ Lycopene ลดอัตราการเกิดสิว ผิวอักเสบ ช่วยให้ผิวแข็งแรงทนต่อการทำลายของแสงแดดได้มากขึ้น 3 เท่า จึงลดความรุนแรงของการเผาไหม้ของผิวหนังจากแสง สามารถต่อต้านมะเร็งผิวหนัง และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ให้ผิวดูสุขภาพดี อมชมพู มีเลือดฝาด บำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง ไม่ไวต่อแสง มีฤทธิ์ที่ในการช่วยยั้บยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันชนิด Low density lipoprotein ( LDL ) จึงสามารถป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัว ( Atherosclerosis ) ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดอัตราการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด
