เนเชอรัลส พลัส ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวกล้องเพาะงอก “ตราเบญจโพสพ” ข้าวเพื่อสุขภาพผลิตมาจากข้าว 5 ชนิด นำมาผ่านกระบวนการเพาะให้งอกด้วยวิธีธรรมชาติ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากสารกาบา GABA (Gamma-Amino Butyric Acid) Dietary Fiber Vitamin E, B1, B2, B6 ทำให้มีสารกาบามากกว่าข้าวกล้องธรรมดาถึง 10 เท่า มีธาตุเหล็กมากกว่าข้าวกล้องธรรมดาถึง 30 เท่า รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เขต/อำเภอละ 1 คน ลงทุนน้อย กำไรงาม ไม่มีความเสี่ยง สามารถสร้างเป็นรายได้เสริมหรือรายได้หลัก ตั้งแต่ 20,000 -100,000 บาทต่อเดือน มีการฝึกอบรมและมีทีมงานคอยช่วยเหลือ ให้คำแนะนำการทำงานตลอดเวลา สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คุณเอก มือถือ 0843519645 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.goodcareplus.com คุณรู้หรือไม่ว่า ปี 2550 ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 63 ล้านคน* ทุกวันคนไทยบริโภคข้าวเฉลี่ยคนละประมาณ 3 ขีด หมายความว่า คนไทยทั้งประเทศบริโภคข้าว 18.9 ล้านกิโลกรัมต่อวัน จะเห็นได้ว่า ข้าวเป็นสินค้าที่คนมีความต้องการซื้อและจำเป็นต้องซื้อสูงจริง ๆ ขายข้าวดีกว่าขายสินค้าอื่นอย่างไร นอกจากข้าวจะเป็นสินค้าจำเป็นที่คนไทยบริโภคสูงแล้ว ข้าวยังเป็นสินค้าที่ไม่เน่า ไม่เสีย เก็บไว้ได้นาน บริโภคแล้วหมดไป ซื้อแล้วต้องซื้อซ้ำอีก แล้วคนไทยทุกคนไม่ว่าจะยากดีมีจน ยังไงก็ต้องทานข้าว ทานตั้งแต่เกิดจนตาย “กับข้าวในจานเหลือได้แต่ข้าวห้ามเหลือ” แล้วยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี คนรัดเข็มขัดกันมากขึ้น คนจะยิ่งบริโภคข้าวกันมากขึ้น ธุรกิจขายข้าวเพื่อสุขภาพ “ตราเบญจโพสพ” ทางเลือกที่ดีในการสร้างรายได้ 1. ข้าวสารเป็นสินค้าที่ขายได้ง่าย เพราะคนไทยส่วนใหญ่บริโภคข้าวเป็นอาหารหลักและต้องบริโภคทุกวัน และเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น 2. ข้าวสารก็เป็นสินค้าที่ไม่เน่า ไม่เสีย เก็บไว้ได้นานแต่ต้องดูแลให้ดี ระวังเรื่องแมลงและความชื้น 3. การขายข้าวสารนั้น ถ้าคนบริโภคแล้ว มีความถูกใจกับชนิดข้าวที่เราขายแล้วนั้น ผู้บริโภคก็จะกลับมาซื้ออีก ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการรักษาฐานลูกค้าเก่า 4. ข้าวสารนั้นนับวันจะเป็นสินค้ามีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ คือราคาไม่ค่อยตก และยิ่งถ้าอยู่ในช่วงที่ราคาโลกข้าวสารกำลังขึ้นราคาแล้วจะทำให้เราได้กำไรยิ่งขึ้น 5. ข้าวสารไม่เหมือนสินค้าอย่างอื่นต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาอยู่เรื่อย ๆ เพื่อมากระตุ้นการตลาดและยอดขาย 6. ข้าวเป็นสินค้าที่คนขายหรือพนักงานไม่ต้องใช้ฝีมือทางวิชาชีพเป็นพิเศษในการขาย (ใคร ๆ ก็ขายได้) แต่ต้องมีความรู้เรื่องชนิดข้าวสารแต่ละชนิด เพื่อที่จะสามารถอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้ 7. การขายข้าวสารไม่จำเป็นต้องขายเฉพาะที่ร้านเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปขายหรือย้ายสถานที่ได้ เช่น เอารถกระบะไปขายที่ตลาดนัด งานแสดงสินค้าในโอกาสต่างๆ เป็นต้น 8 การขายข้าวมีภาวะความเสี่ยงต่อการลงทุนน้อย หากขายไม่ได้หรือเลิกกิจการข้าวสารก็ไม่เสียมูลค่ามากเท่าใดนัก
