Warning: Trying to access array offset on value of type null in /home/classif1/domains/classified108.com/public_html/post-view.php on line 26
รายการแสวงบุญ ทอดผ้าป่า 10 วัน 9 วัด 1 กองทุนการศึกษา 17 – 26 ธ.ค. 2553 » CLASSIFIED108.com

รายการแสวงบุญ

Unknown Amphur Unknown Province
-

รายการแสวงบุญ ทอดผ้าป่า 10 วัน 9 วัด 1 กองทุนการศึกษา 17 – 26 ธ.ค. 2553

รายการแสวงบุญทอดผ้าป่า 10 วัน 9 วัด http://www.sanggomtour.com กับอีก 1 กองทุนการศึกษา ในดินแดนพุทธภูมิ อินเดีย-เนปาล นำโดยพระครูสุชาติวุฒิคุณ วัดจระเข้ใหญ่ จ.สุพรรณบุรี รายการโดยย่อ กรุงเทพฯ – กัลกัตตา – คยา – พาราณสี สาวัตถี – กบิลพัสด์ – ลุมพินี (เนปาล) กุสินารา – เวสาลี- นาลันทา-ราชคฤห์ -คยา – กรุงเทพฯ กำหนดการเดินทาง 17-26 ธันวาคม 2553 [1] วันศุกร์ ที่ 17 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 1) (กรุงเทพฯ –กัลกัตตา – คยา) 07.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 เคาน์เตอร์ P สายการบินเจ็ต แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 065 09.20 น. เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ 10.40 น. เครื่องลงสนามบินกัลกัตตา อินเดีย พร้อมเช็คเอาท์ และขึ้นรถบัสเดินทางไปชมเมือง กัลกัตตา ซึ่งมีสิ่งสำคัญที่จะให้ชม 3 แห่งด้วยกัน คือ วิกตอเรียม เมโมเรี่ยม วัดเชน และวัดพระแม่กาลี อาหารเที่ยงบนรถบัน อาหารเย็นที่ร้านอาหาร 17.00 น. เดินทางต่อไปพุทธคยา [2] วันเสาร์ ที่ 18 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1) พุทธคยา 05.00 น. ถึงพุทธคยา เข้าที่พัก และทำภารกิจส่วนตัว 08.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว ขึ้นรถบัสไปนมัสการและเยี่ยมชมพระมหาโพธิ์เจดีย์ อันเป็นเจดีย์ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คณะเข้านมัสการและขอพรพระพุทธเมตตา ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์พระองค์นี้ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งถึงกับพระเจ้าศสา งกาให้ทหารทำลาย แต่ทำลายไม่ได้และพระองค์เองไม่นานก็สิ้นพระชนม์ คณะ นำชมสิ่งสำคัญรอบ ๆ พระเจดีย์ นั่นคือ 1) ต้นพระศรีมหาโพธิ์ แม้ต้นนี้เป็นต้นที่ 4 ก็ถือว่าสำคัญยิ่ง เพราะงอกงามอยู่ในที่ซึ่งต้นเดิมอยู่นั่นแหละ 2) พระแท่นวัชรอาสน์ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างองค์พระเจดีย์และต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ประทับในคืนตรัสรู้ ซึ่งพระองค์ทรงลาดหญ้ากุสะเป็นบัลลังก์ประทับนั่ง และพระองค์ได้ทรงอธิษฐาน ณ อาสนะนี้ ความว่า “หากแม้นเลือดและเนื้อจะเหือดจะแห้งอย่างไร ถ้าไม่บรรลุพระอรหันตสัมมาสัมโพธิญาณแล้วจักไม่เสด็จลุกขึ้นจากอาสนะนี้” อาสนะนี้จึงได้ชื่ออว่า วัชรอาสน์ อาสนะ (ที่นั่ง) ของบุรุษใจเพชร (แข็ง) 3) อนิมิสสเจดีย์อนุสรณ์สถานที่พระพุทธองค์เสวยวิมุตติสุขในสัปดาห์ที่ 2 โดยประทับยืนมองไปยังต้นพระศรีมหาโพธิ์และไม่กระพริบพระเนตรตลอด 7 วัน ซึ่งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (นิดๆ) ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ 4) รัตนจงกรมเจดีย์ ด้านทิศเหนือขององค์พระเจดีย์ มีรัตนจงกรมเจดีย์คือ อนุสรณ์สถานที่พระพุทธองค์ทรงใช้เสวยวิมุตติสุขอีก 7 วัน โดยเสด็จเดินจงกรมตลอด 7 วัน ในสัปดาห์ที่ 3 หลังจากตรัสรู้ 5) รัตนฆรเจดีย์ สถานที่ทรงนั่งสมาธิพิจารณาอภิธรรม ในสัปดาห์ที่ 4 อีก 7 วัน ซึ่งอยู่ทิศเหนือของต้นพระศรีมหาโพธิ์ 6) สระมุจจลินทร์จำลอง ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของพระเจดีย์ (สระมุจจลินทร์จริง อยู่ห่างจาก พระศรีมหาโพธิ์ ประมาณ 2 กม. คณะไม่นำไป ที่ต้นราชายตนะสถานที่เสวยวิมุตตุสุขในสัปดาห์ที่ 7 ก็ไม่นำไป ซึ่งอยู่ไกลไปทางใต้ ไกลจากสระมุจจลินทร์อีกประมาณ 1 กม. หรือห่างต้นพระศรีมหาโพธิ์ประมาณ 3 กม.) จากนั้น นำกล่าวคำบูชาองค์พระเจดีย์ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตลอดจนนำไหว้พระ สมาธิภาวนา อธิษฐานจิต ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง อธิษฐานบุญเพื่อคนที่เรารักทุกๆท่าน ฟังปรารภธรรมพอสมควรแก่เวลาลุกขึ้นพร้อมกันทำประทักษิณ เวียนรอบองค์พระเจดีย์และพระศรีมหาโพธิ์ 3 รอบ ได้เวลาพอสมควรกลับวัดเพื่อทานอาหารเที่ยง ผู้ใดประสงค์สมาทานศีล 8 ก็สามารถสมาทานได้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ 11.30 น. กลับวัดไทยพุทธคยา ทานอาหารเที่ยง 14.00 น. ไปนมัสการและชมวัดนานานชาติรอบ ๆ วัดไทยพุทธคยา ใกล้ ๆ สถานที่ตรัสรู้ วัดนานาชาติที่เข้าชมมี 1) วัดภูฐาน เป็นวัดที่สวยงามมาก ศิลปะฝาผนังเป็นภาพปั้นนูน แสดงพุทธประวัติ ตั้งแต่พระมารดาทรงพระสุบินว่า มีพระยาช้างเผือกนำดอกบัวมาและเข้าสู่พระครรภ์ของพระนาง จนกระทั่งถึงพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน 2) วัดทิเบต อีกวัดหนึ่งสวยงามไม่น้อย แต่ภาพฝาผนังเป็นภาพวาดเกี่ยวกับประวัติเช่นเดียวกัน ยิ่งพระพุทธรูป ของภูฐานและทิเบตสวยงามยิ่งนัก 3) วัดญี่ปุ่น คณะของเราจะเข้านมัสการพระพุทธรูปศิลาที่ใหญ่ที่สุดแถบนั้น ซึ่งทำด้วยหินทรายแดง แกะสลักและนำมาต่อกันเป็นชิ้น และงดงามยิ่งนัก เช่นกัน 4) วัดไทยพุทธคยา ซึ่งเป็นวัดแรกของไทยที่ไปสร้างไว้ในดินแดนพุทธภูมิ เริ่มมาตั้งแต่ปี 2500 มีอุโบสถเด่นสง่า จำลองรูปแบบจากวัดเบญจมฯ กรุงเทพฯ ภาพวาดภายในก็วิจิตรงดงาม ซึ่งเป็นภาพประวัติพระมหาชนก และเจดีย์สังเวชนียสถาน 4 ตำบล และเราสามารถดูภาพมายาเทวีวิหารที่ลุมพินีวัน สถานที่ประสูติของเก่า ก่อนจะซ่อมแซมได้ พระพุทธรูปก็งดงามตามแบบฉบับของศิลป์ไทย 19.00 น. ทานอาหารเย็นและลงโรงพระอุโบสถเพื่อถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ อันเป็นวัดแรกของการถวายผ้าป่า 9 วัดในครั้งนี้ อนึ่งหลังจากนี้ใครต้องการจะซื้อของหรือต้องการบำเพ็ญกุศลเพิ่มเติมโดยวิธี ใด เช่น สมาธิภาวนาใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็สามารถเดินทางไปเองได้ ประตูปิดเวลา 3 ทุ่ม ตลาดก็ปิด 3 ทุ่มเช่นกัน [3] วันอาทิตย์ ที่ 19 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 1) (คยา – พาราณสี) 06.30 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางไปเมืองพาราณสี 11.30 น. ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง 13.30 น ถึงเมืองพาราณสีเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถ ซึ่งมีพระพุทธรูปที่สวยที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ เป็นพระพุทธรูปศิลาปางปฐมเทศนา นอกจากนี้จะนำคณะไปชมภายในป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ภายในนี้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สารนาถ มีสิ่งสำคัญดังต่อไปนี้ 1) ธัมเมกขสถูป เจดีย์ที่แสดงพระปฐมเทศนา คณะนำกล่าวคำบูชา ไหว้พระ สมาธิภาวนา และเวียนเทียนที่นี่ด้วย 2) ธัมมราชิกสถูป เจดีย์ที่ทรงแสดงอนัตตลักขณสูตร 3) มูลคันธกุฎี สถานที่พระพุทธเจ้าประทับ 4) เสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศก 5) ปัญจายตันเจดีย์ สถานที่พระยสะพบพระพุทธเจ้า และเมื่อได้ฟังธรรมะ คือ อนุปุพพีกถาและอริยสัจจ์ 4 แล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ ณ ตรงนี้ 6) เจดีย์ราย ซึ่งเป็นที่เก็บอัฐิธาตุของพระอรหันต์อีกมากมาย 7) ซากอาคารกุฏิพระสงฆ์ 8] สวนกวาง ท่านสามารถซื้ออาหารให้กวางได้ด้วย มีนกยูงให้ดูชมด้วย ออกจากป่าอิสิฯก็ต่อไปนมัสการ นิวมูลคันธกุฎี ซึ่งชาวศรีลังกาสร้างขึ้นมาใหม่ จำลองรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนพระมหาเจดีย์พุทธคยา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปจำลองปางปฐมเทศนา ซึ่งสวยงามมาก ดุจเทพเนรมิตไว้กระนั้นแหละ ผู้ใดประสงค์จะซื้อหนังสือธรรมะ (ภาษาอังกฤษ) พระพุทธรูปหิน ภาพโปสเตอร์เกี่ยวกับสถานที่และสิ่งสำคัญ (เล่มละ 20 รูปี) ก็สามารถซื้อได้ที่นี่ คณะนำไปไหว้และกล่าวคำบูชาพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ รอบ ๆ ต้นโพธิ์ลังกา ข้าง ๆ นิวมูลคันธกุฎี ดูชมอักษรจารึกพระธัมมจักกัปวัตตนสูตรของชาติต่าง ๆ รวมทั้งอักษรไทยด้วย ได้เวลาพอสมควร ไปชมพิธีคงคาราตรี ซึ่งเป็นพิธีบูชาแม่คงคา ที่ชาวฮินดู กระทำการบูชานี้ทุกวัน โดยล่องเรือในแม่น้ำคงคา ชมสิ่งต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำด้วย 19.30 น. กลับเข้าสู่วัดไทยสารนาถ ทานอาหารค่ำ พักผ่อนตามอัธยาศัย หรือหากจะซื้อผ้าสาลี่ก็ยินดีที่จะนำแวะซื้อก่อนเข้าที่พัก คณะของเราร่วมสมทบปัจจัยทอดผ้าป่าช่วยกิจสงฆ์ที่นี่ด้วย ซึ่งเป็นวัดที่ 2 ของรายการ [4] วันจันทร์ ที่ 20 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 1) (พาราณสี – สาวัตถี) 06.30 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางไปเมืองสาวัตถี 11.30 น. ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง 17.00 น. ถึงเมืองสาวัตถี เข้านมัสการสิ่งสำคัญต่างๆ ในบริเวณ เชตวันมหาวิหาร ซึ่งมีต้นโพธิ์พระอานนท์ พระคันธกุฎี กุฏิพระสีวลี เป็นต้น ได้เวลาพอสมควร เข้าวัดไทยเชตะวัน ทานอาหารเย็น ร่วมทอดผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี่ตามกำลังศรัทธา อันเป็นวัดที่ 3 ของรายการ และพักผ่อนตามอัธยาศัย [5] วันอังคาร ที่ 21 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1) (สาวัตถี – กบิลพัสดุ์ -ลุมพินีวัน) 07.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางไปชมอนุสรณ์สถานบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และ บ้านองคุลิมาล และเตรียมตัวขึ้นรถต่อไปลุมพินีวันประเทศเนปาล 11.30 น. อาหารเที่ยงระหว่างทาง 14.30 น. แวะชม เมืองกบิลพัสดุ์ระหว่างทาง 18.00 น. ถึงลุมพินีวันพักที่วัดไทยลุมพินี 20.00 น. หลังอาหารเย็นแล้วขึ้นโรงอุโบสถ เพื่อถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ อันเป็นวัดที่ 4 [6] วันพุธ ที่ 22 ธันวาคม 2553 (แรม 1 ค่ำ เดือน 1) (ลุมพินีวัน – กุสินารา) 07.00 น. หลังอาหารเช้าแล้วเดินทางไปนมัสการสถานที่ประสูติ ซึ่งมีสิ่งสำคัญ ดังนี้ คือ 5.1) มายาเทวีวิหาร ซึ่งเป็นวิหารที่ประดิษฐานพระรูปของพระนางสิริมหามายาประสูติพระกุมาร แต่ขณะนี้ได้รับการขุดและซ่อมแซมเปลี่ยนรูปทรงเป็นอีกแบบหนึ่งแล้ว 5.2) รูปรอยฝ่าพระบาทของ พระกุมาร ได้รับเล่าว่า หลังจากขุดค้นในวิหารแล้วเจอรอยนี้ จึงสันนิษฐานว่า ณ รอยฝ่าพระบาทจำลองนี้ประดิษฐานนั้นแหละ คือ จุดประสูติที่แท้จริง 5.3) เสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศก 5.4) สระโบกขรณี สระสรงสนานหลังจากประสูติ สระน้ำกลางสวนลุมพินี และสิ่งอื่น ๆ อีกมากมาย ณ สวนลุมพินีนี้ คณะของเราเวียนเทียน ไหว้พระ สมาธิภาวนา ตามสมควรแก่เวลา 09.30 น. เสร็จภารกิจแล้วเดินทางกลับสู่อินเดียอีก แวะถวายผ้าป่าที่วัดสุขาราม (960) ซึ่งเป็นวัดที่ 5 และคณะทานอาหารเที่ยงที่นี้ด้วย 12.30 น. ออกเดินทางต่อไปเมืองกุสินารา 17.00 น. คณะถึงกุสินารา เข้า สาลวโนทยาน แห่งมัลลกษัตริย์ เพื่อนมัสการพระปรินิพพานเจดีย์ พระพุทธรูปปางปรินิพพาน เป็นต้น( ณ ที่นี่คณะของเราจะถวายผ้าห่มพระพุทธรูปปางปรินิพพานด้วย) นำกล่าวคำบูชาไหว้พระอธิษฐานจิตภาวนาและทำประทักษิณ สมควรแก่เวลาให้ถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย จบแล้ว เดินทางต่อไปเพื่อนมัสการ มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระศพของพระพุทธองค์ แม้ที่นี้คณะของเรากล่าวคำบูชา ไหว้พระ อธิษฐานจิต และทำประทักษิณรอบพระเจดีย์ด้วย 19.00 น. กลับเข้าสู่วัดไทยกุสินาราเข้าที่พัก และทานอาหารเย็น 21.00 น. เข้าโรงพระอุโบสถเพื่อถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ ซึ่งเป็นวัดที่ 6 ในการถวายผ้าป่ารอบนี้เสร็จแล้วจะพักผ่อนหรือจะเก็บบุญโดยการเวียนประทักษิณ รอบองค์พระเจดีย์ที่นี้ สัก 33 รอบ ก็จะเพิ่มบุญอีกมหาศาลที่เดียว [7] วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม 2553 (แรม 2 ค่ำ เดือน 1) (กุสินารา – เวสาลี) 07.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางต่อไปเมืองเวสาลี ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง 15.00 น. ถึงเมืองเวสาลี แวะเข้านมัสการพระเจดีย์ ที่ กูฎาคารศาลาป่ามหาวันวัน ซึ่งกล่าวกันว่า เป็นเจดีย์ที่พระเจ้าอโศกได้รวบรวมพระบรมธาตุทั้งหมดที่รวบรวมมาได้มาแบ่ง ประดิษฐานบรรจุไว้ที่เจดีย์นี้ก่อนที่จะแจกจ่ายส่วนต่างๆ ไปประดิษฐานไว้ใน 84,000 เจดีย์ ทั่วชมพูทวีป นอกจากนั้นที่นี้ยังมีเสาพระเจ้าอโศกที่สมบูรณ์ที่สุดด้วย จากนั้นเดินทางไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์ที่วาลุการาม ซึ่งเป็นพระเจดีย์ที่เก่าแก่มากเจดีย์หนึ่ง คณะกล่าวคำบูชาและประทักษิณ จบแล้ว เดินทางเข้าวัดไทยเวสาลี 18.00 น. ถึงวัดไทยเวสาลี ทานอาหารเย็น 20.00 น. ถวายผ้าป่าที่นี่อีกหนึ่งวัด อันเป็นวัดที่ 7 อธิษฐานบุญแล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย [8] วันศุกร์ ที่ 24 ธันวาคม 2553 (แรม 3 ค่ำ เดือน 1) (เวสาลี-นาลันทา) 07.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางต่อไปเมืองนาลันทา 11.00 น. ถึงวัดไทยนาลันทา ทานอาหารเที่ยง ที่นี่ 14.00 น. เข้านมัสการพระพุทธเจ้าองค์ดำ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์มากองค์หนึ่งที่แต่ละท่าน ปรารถนาอันใดมักจะสัมฤทธิ์ผลตามที่ปรารถนานั้นทุกประการ จบจากนั้นแล้วเข้าชมมหาวิทยาลัยนาลันทาเก่า แม้คนนอกศาสนาจะเผาทำลายจนเหลือแต่ซากแล้วก็ตาม ก็ยังคงมีร่องรอยแสดงความยิ่งใหญ่และโอฬารให้คณะผู้เยี่ยมเยียนได้ชมอยู่ และเดินทางต่อไปที่วัดไทยนาลันทาและถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ อันเป็นวัดที่ 8 เสร็จแล้วทานอาหารเย็น และพักผ่อนตามอัธยาศัย [9] วันเสาร์ ที่ 25 ธันวาคม 2553 (แรม 4 ค่ำ เดือน 1) (นาลันทา-ราชคฤห์-กัลกัตตา) 07.00 น. หลังอาหารเช้าแล้ว เดินทางไปขึ้นภูเขาคิชฌกูฏโดยนมัสการและชมสิ่งต่าง ๆ ดังนี้ 1) ภูเขาคิชฌกูฏ ผู้ขึ้นที่สูงไม่ ไหวสามารถใช้เสลี่ยงได้ โดยต้องจ่ายคนละ 900 รูปี ณ ภูเขาคิชฌกูฏนี้มีสิ่งสำคัญอีกมากมาย คือ 1.1) มัตถกุจฉิ- สถานที่พระมารดาของพระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จมาจะทำแท้ง 1.2) ถ้ำพระมหาโมคคัลลาน ผู้เลิศทางอิทธิฤทธิ์ เราเข้าไปกราบขอพร 1.3) ถ้ำสุกรขาตา หรือถ้ำคางหมู เป็นถ้ำที่พระสารีบุตรอยู่อาศัย และพระสารีบุตรบรรลุพระอรหันต์ที่ถ้ำนี้ ซึ่งเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ถ้ำพระสารีบุตร เราเข้าไปกราบขอพร 1.4) ลานหินโค้ง สถานที่พระพุทธองค์ทรงประทับแสดงธรรมแก่พระภิกษุสงฆ์ขณะประทับที่เขาคิชฌกูฏ 1.5) กุฏิพระอานนท์ ซึ่งเป็นที่อาศัยของพระอานนท์ ตั้งอยู่หน้าพระคันธกุฎีของพระพุทธเจ้า 1.6) พระคันธกุฎี กุฏิที่พระพุทธองค์ทรงประทับ ซึ่งอยู่บนเงื่อมยอดภูเขาคิชฌกูฏ ณ ยอดคิชฌกูฏเราสามารถมองสิ่งต่างๆอื่นดูได้อีก เช่น สระโบกขรณี ขณะที่ยืน ณ พระคันธกุฎี สามารถมองลงไปข้างล่างเห็นสระน้ำที่เคยสรงสนานและร่องรอยยังมีอยู่ ภูเขาปาณฑวะ ภูเขาอิสิคิลิ ยอดรัตนคีรี (วัดญี่ปุ่นประดิษฐานอยู่)กลับมาทานอาหารเที่ยงที่วัดไทยสิริราชคฤห์ หลังอาหารเที่ยงแล้วแวะชม 2. โรงพยาบาลหมอชีวก เป็นสถานที่รักษาพยาบาลพระสงฆ์และผู้ป่วยในสมัยพุทธกาล ซึ่งหมอชีวกเป็นผู้สร้าง เป็นผู้จัดการ เป็นหมอรักษาเองด้วย 3. คุกพระเจ้าพิมพิสาร มีเวลาก็ลงแวะชมสถานที่พระเจ้าอชาตศัตรู ผู้เป็นราชบุตรของพระเจ้าพิมพิสาร ได้จับเสด็จพ่อคือพระเจ้าพิมพิสารขังไว้ในคุก ทรมานจนสิ้นพระชนม์ในคุกนั้น 11.30 น. เข้าไปทานอาหารเที่ยงที่วัดไทยสิริราชคฤห์ คณะของเราถวายผ้าป่าที่นี่อีก 1 กองด้วยเช่นกัน อันเป็นวัดที่ 9 จากนั้นไปดูชมสิ่งและสถานที่อื่นๆ อีกคือ 4.) ตโปทา บ่อน้ำร้อน ที่ไหลมาจากภูเขาเวภาระ คณะจะได้ดูชม ชนชั้นสูงอาบน้ำ ณ ต้นน้ำ ชนชั้นต่ำอาบน้ำ ณ ชั้นล่างที่น้ำขุ่นคลักแล้วอย่างน่าสมเพช แต่ก็เขาไม่รังเกียจที่จะอาบและใช้สอย 5.) วัดเวฬุวัน ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกของพระพุทธศาสนา ที่พระเจ้าพิมพิสารได้ถวายให้เป็นวัด และเป็นพุทธบูชา สถานที่นี้เป็นต้นกำเนิดวันมาฆบูชา ที่พระอรหันต์ 1,250 รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย และพระพุทธองค์ทรงประทานโอวาทปาติโมกข์ ณ ที่นี่ คณะของเราจะได้รวบรวมปัจจัย เพื่อเป็นทุนการศึกษา ของพระภิกษุสามเณรในระดับปริญญา ตรี – โท – เอก เพิ่มเติมอีก 1 กอง อันเป็นกองที่ 10 เสร็จเรียบร้อยกรวดน้ำ อุทิศบุญกุศลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายพร้อมทั้งญาติพี่น้องและเจ้ากรรมนายเวร และกลับไปวัดไทยสิริราชคฤห์ อาบน้ำ ทานอาหารเย็น และเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยในวันรุ่งขึ้นด้วย [10] วันอาทิตย์ ที่ 26 ธันวาคม 2553 (แรม 5 ค่ำ เดือน 1) (กัลกัตตา – สุวรรณภูมิ) 06.00 น. ถึงสนามบินกัลกัตตา ล้างหน้าตา ทานอาหารเช้า 09.20 น. พร้อมเช็คอิน สายการบิน เจ็ต แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W064 11.55 น. เครื่องออก 16.10 น. เครื่องถึงสนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมเช็คเอาท์ และรับกระเป๋า แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาด้วยความสวัสดิภาพ สิ่งที่ต้องเตรียม [1] เตรียมเพื่อจองเป็นผู้เดินทาง (เก็บเมื่อจอง) 1.1) หนังสือเดินทาง (Passport) 1.2) เอกสารสำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด (โปรดได้เขียนเบอร์โทรศัพท์ลงในเอกสารนี้ด้วย เพื่อจักได้โทรกลับทันทีเมื่อได้รับเอกสารแล้ว) 1.3) ภาพถ่าย 2 นิ้ว เพื่อทำวีซ่า 5 ภาพ (ทั้ง 2 ประเทศ) 1.4) เงินมัดจำ 10,000 บาท/คน(หนึ่งหมื่นบาท) จะถือว่าจองแล้วจริง เมื่อจ่ายค่ามัดจำแล้วเท่านั้นนะครับ เงินส่วนที่เหลือ จ่ายก่อนเดินทางอย่างน้อย 15 วัน ครับ 1.5) เอกสาร 1.1) – 1.3) ส่งไปที่ คุณราตรี ฉุยฉาย 10/12-13 ถ.คอนแวนต์ สีลม เขต บางรัก กรุงเทพ 10500 โทร. 081-425-9350 และสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่นี่เช่นกัน [2] เตรียมเมื่อยามจะเดินทาง (นำไปเมื่อเดินทาง) 2.1) ยาประจำตัว และติด พารา ไปบ้าง 2.2) ผ้าถุงหนึ่งผืน (เฉพาะผู้หญิง) เผื่อต้องเข้าห้องน้ำในสถานที่ที่ไม่มีห้องน้ำ 2.3) ช่วงนี้อากาศหนาว ต้องเตรียมชุดหนาวไปด้วย 2.4) ไฟฉายเล็กๆ สัก 1 กระบอก [3] ค่าบริการท่าน ละ 30,000บาท (สามหมื่นบาท)สามารถโอนเงินทั้งค่ามัดจำและส่วนที่เหลือได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขา บางกอกน้อย เลขที่ 119-0-481 893 บัญชีชื่อ นายสังคม แชเชือน และ Fax. ใบโอนไปที่หมายเลข 02-991-8271 และ อย่าลืมเขียนชื่อลงในใบเป-อินด้วย จะได้ทราบทันทีว่าใครเป็นผู้โอนเงินจำนวนนั้น หรือโทร.แจ้งให้ คุณราตรีทราบก็ได้ ราคานี้รวม ค่าวีซ่า-ค่าตั๋วเครื่องบิน – ค่าที่พัก-อาหาร-ยานพาหนะในอินเดีย-ภาษีสนามบิน –ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ไว้แล้ว แต่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% และค่าทิปต่าง ๆ อีกประมาณ 300-400 บาท ขอท่านที่คิดว่าจะร่วมเดินทางให้รีบจองนะครับ มิฉะนั้นอาจจะพลาดขบวน เพราะรับจำนวนจำกัด ติดต่อจอง รายการแสวงบุญทอดผ้าป่า 10 วัน 9 วัด กับอีก 1 กองทุนการศึกษา ในดินแดนพุทธภูมิอินเดีย-เนปาล 18 – 26 ธันวาคม 2553 ได้ที่ ดร.สังคม แชเชือน โทร. 081-895-2009, 086-909-2109 หากติดต่อไม่ได้ โปรดโทร. 001-91-980-178-8965 (อยู่อินเดีย) หรือติดต่อที่ คุณราตรี ฉุยฉาย 081-425-9350 เว็บไซต์ http://www.sanggomtour.com sanggom_tour@hotmail.com

ราคา : 39,000 บาท


Warning: Trying to access array offset on value of type null in /home/classif1/domains/classified108.com/public_html/post-view.php on line 165

Warning: Undefined variable $pages in /home/classif1/domains/classified108.com/public_html/post-view.php on line 189

Warning: include(_footer.php): Failed to open stream: No such file or directory in /home/classif1/domains/classified108.com/public_html/post-view.php on line 212

Warning: include(): Failed opening '_footer.php' for inclusion (include_path='.:/usr/local/php80/lib/php') in /home/classif1/domains/classified108.com/public_html/post-view.php on line 212