โปรแกรมทัวร์อินเดีย-เนปาล, พม่า, สรีลังกา อื่น ๆ http://www.sanggomtour.com ร่วมสร้างบารมีบุญในดินแดนพุทธภูมิ 10 คืน 11 วัน ทอดผ้าป่า 7 วัด คณะหาดใหญ่ รายการโดยย่อ กรุงเทพ-กัลกัตตา-คยา – นาลันทา – ราชคฤห์ – คยา พาราณสี – กุสินารา – ลุมพินี (เนปาล) – กบิลพัสดุ์ สาวัตถี – ทัชมาฮาล – เดลฮี – กรุงเทพฯ กำหนดการเดินทาง 3 – 13 ธันวาคม 2553 [1] วันศุกร์ ที่ 3 ธันวาคม 2553 (แรม 12 ค่ำ เดือน 12) กรุงเทพ-กัลกัตตา-นาลันทา 13.50 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 7 เคาน์เตอร์ F 17-18-19 พร้อมเช็คอินสายการบิน คิงฟิชเชอร์ เที่ยวบินที่ IT 022 16.30 น. เครื่องออกจากสุวรรณภูมิสู่สนามบินกัลกัตตา 17.30 น. เครื่องถึงสนามบินกัลกัตตา พร้อมเช็คเอาท์ และขึ้นรถบัสไปเดินทางต่อไปเมืองนาลันทา 2) วันเสาร์ ที่ 4 ธันวาคม 2553 (แรม 13 ค่ำ เดือน 12) นาลันทา-ราชคฤห์ -นาลันทา 06.00 น. ถึงวัดไทยนาลันทา ทานอาหารเช้า และพักผ่อนตามอัธยาศัย 09.00 น. เดินทางต่อไปสักการะพระพุทธเจ้าองค์ดำ และชมมหาวิทยาลัยนาลันทา อันเก่าแก่ แม้เหลือแต่ซากปรักหักพัง ก็ยังทรงพลังแห่งความยิ่งใหญ่ในอดีตได้ดี ได้เวลาพอสมควร กลับมาทานอาหารเที่ยงที่วัดไทยนาลันทา 13.00 น. เดินทางไปเมืองราชคฤห์ และขึ้นชมพร้อมทั้งสักการะสิ่งต่างๆ บนภูเขาคิชฌกูฎ มีถ้ำพระโมคคัลลาน ถ้ำพระสารีบุตร กุฎิพระอานนท์ และที่สำคัญที่สุด คือ พระคันธกุฎิ อันเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า ได้เวลาพอสมควรลงจากภูเขาและแวะชมคุกพระเจ้าพิมพิสาร โรงพยาบาลหมอชีวก เดินทางกลับวัดไทยนาลันทา 18.00 น. ทานอาหารเย็น จบแล้วขึ้นโรงอุโบสถเพื่อทำวัตรเย็น และถวายผ้าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี่ อันเป็นวัดแรกของรายการ [3] วันอาทิตย์ ที่ 5 ธันวาคม 2553 (แรม 14 ค่ำ เดือน 12) นาลันทา – พุทธคยา 07.00 น.หลังอาหารเช้าแล้วเดินทางต่อไป พุทธคยา 09.30 น. ถึงพุทธคยา นำคณะไปชมวัดนานาชาติ มีวัดทิเบต วัดญี่ปุ่น วัดภูฐาน เป็นต้น ได้เวลาพอสมควร 11.30 น. เข้าวัดไทยพุทธคยา เพื่อทานอาหารเที่ยง และเข้าที่พัก 13.30 น. เดินทางไปนมัสการองค์พระมหาโพธิเจดีย์ พระพุทธเมตตา ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นำกล่าวคำบูชา ไหว้พระ สมาธิภาวนา ทำประทักษิณทั้งพระมหาเจดีย์และต้นพระศรีมหาโพธิ์ 3 รอบ จากนั้นนำคณะศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่สำคัญที่พระพุทธองค์ทรงใช้เสวย วิมุตติสุขหลังจากตรัสรู้ ซึ่งอยู่รอบๆ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นคือ พระแท่นวัชรอาสน์ อนิมิสสเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ ตามลำดับ 18.00 น. ได้เวลาอาหารเย็นกลับไปทานที่วัดไทยพุทธคยา 19.00 น. ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว พร้อมกันขึ้นโรงอุโบสถเพื่อถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ตามกำลังศรัทธา อันเป็นวัดที่ 2 กรวดน้ำรับพรแล้ว กลับเข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย อนึ่งหากผู้จะซื้อของบริเวณใกล้ๆต้นพระศรี มหาโพธิ์ก็สามารถไปได้ และผู้ใดต้องการเก็บบุญเพิ่มเติมก็สามารถไปนั่งสมาธิเจริญภาวนาได้ที่ต้น โพธิ์ (วัดอยู่ใกล้บริเวณพุทธปริมณฑล) [4] วันจันทร์ ที่ 6 ธันวาคม 2553 (แรม 15 ค่ำ เดือน 12) พุทธคยา-พาราณสี 06.00 น. ทานอาหารเช้า 06.30 น. เดินทางต่อไปเมืองพาราณสี อาหารเที่ยง ระหว่างทาง 13.00 น. ถึงเมืองพาราณสี เข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองสารนาถเพื่อสักการะพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาอันงามที่สุด ของโลก ได้เวลาพอสมควร เข้าสักการะและชมสิ่งต่างๆ ภายในบริเวณป่าอิสิปตนมฤคทายวัน กล่าวคือ ธัมเมกขสถูปสถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา ธัมมราชิกาสถานที่ทรงแสดง อนัตตลักขณสูตร ปัญจายตันเจดีย์ สถานที่ทรงแสดงธรรมแก่พระยสะ มูลคันธกุฏี สถานที่ประทับพระพุทธองค์ และเสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศกมหาราช บริเวณธัมเมกขสถูป คณะนำกล่าวคำบูชา ไหว้พระ สมาธิภาวนา พร้อมทั้งทำประทักษิณ นอกจากนั้น คณะจะได้ศึกษาเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วด้วย ได้เวลาพอสมควรออกจากบริเวณนี้แล้วไปเยี่ยมชม นิวมูลคันธกุฏี ซึ่งชาวศรีลังกาดำเนินการสร้างไว้เป็นพุทธบูชา ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่สวยงามอีกองค์หนึ่ง พร้อมทั้งเข้านมัสการพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ซึ่งประดิษฐานอยู่รอบๆ ต้นโพธิ์ลังกา ได้เวลาพอสมควรเดินทางต่อไปชม คังคาราตรี ณ ฝั่งแม่น้ำคงคา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมการบูชาอย่างหนึ่งของชาวฮินดู จบแล้วกลับเข้ามาที่สารนาถเข้าพักที่วัดไทยสารนาถ ทานอาหารเย็น และคณะร่วมบุญสร้างบารมีถวายผ้าป่าวัดไทยสารนาถ ตามกำลังศรัทธา ซึ่งเป็นวัดที่ 3 จบแล้วพักผ่อนตามอัธยาศัย [5] วันอังคาร ที่ 7 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 1) พาราณสี-กุสินารา 06.00 น. ทานอาหารเช้า 07.00 น. ออกเดินทางไปเมืองกุสินารา สถานที่ปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง 15.00 น. คณะถึงเมืองกุสินารา เข้านมัสการพระพุทธรูปปางปรินิพพาน หรือปางอนุฏฐานไสยาสน์ พระเจดีย์มหาปรินิพพาน ฐานเจดีย์ที่ประดิษฐานพระศพสมโภช คณะนำไหว้พระ สมาธิภาวนา และทำประทักษิณ ตามสมควรแก่เวลา และเดินทางต่อไปมกุฏพันธนเจดียสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพของพระพุทธองค์ ได้เวลาพอสมควร เข้าวัดไทยกุสินารา ทานอาหารเย็นและพักค้างคืนที่นี่ คณะร่วมบุญกุศลที่วัดนี้ด้วยการถวายผ้าป่าตามกำลังศรัทธา อันเป็นวัดที่ 4 [6] วันพุธ ที่ 8 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 1) กุสินารา-ลุมพินี – กบิลพัสดุ์ 06.30 น หลังอาหารเช้าแล้วเดินทางต่อไปประเทศเนปาล เพื่อนมัสการสถานที่ประสูติที่ลุมพินีวัน ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง ที่วัดไทย 960 12.30 น. ข้ามพรมแดนอินเดียเข้าสู่เนปาล ณ ด่านโสโนลี ตรงไปลุมพินีวันประกอบพิธีบูชาสักการะมหามายาเทวีวิหาร เสาศิลาจารึกพระเจ้าอโศก สระโบกขรณี ไหว้พระ สมาธิภาวนา ประทักษิณเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลับเข้าสู่ที่พักอินเดียอีกครั้งหนึ่ง แวะทานอาหารเย็นที่วัดไทย 960 และคณะของเราก็จัดถวายผ้าป่า ช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นวัดที่ 5 และเดินทางต่อไปพักที่ โรงแรม รอยัล รีทรีต [7] วันพฤหัสบดี ที่ 9 ธันวาคม 2553(ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 1)กบิลพัสดุ์ – สาวัตถี – ทัชมาฮาล 06.00 น. อาหารเช้า 07.00 น. เดินทางไปชม เมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งอินเดียกล่าวว่า ที่นี่ คือ เมืองกบิลพัสดุ์ จากนั้น เดินทางต่อไปเมืองสาวัตถี สถานที่พระพุทธองค์จำพรรษามากที่สุด ถึง 25 พรรษา 11.30 น. ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง 14.00 น ถึงเมืองสาวัตถี เข้าชมเจตยานุสรณ์บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี บ้านองคุลิมาล สถานที่ พระเทวทัตต์ถูกแผ่นดินสูบ สถานที่นางจิญจมานาวิกาถูกแผ่นดินสูบ 17.00 น. ได้เวลาพอเหมาะ เข้าวัดไทยเชตะวัน ทานอาหารเย็น และถวายผ้าป่าช่วยเหลือกิจสงฆ์ที่นี่ ตามกำลังศรัทธา อันเป็นวัดที่ 6 และรวบรวมปัจจัย ถวายผ้าป่าอีกกองหนึ่งเพื่อเป็นทุนการศึกษาของพระภิกษุสามเณรผู้จะศึกษาต่อ ในระดับ ปริญญาตรี –โท-เอก อันเป็นวัดที่ 7 จบแล้ว อธิษฐานบุญของตนๆ แก่คนที่รักและเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย และพักผ่อนตามอัธยาศัย [8] วันศุกร์ ที่ 10 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 1) ทัชมาฮาล 06.00 น. ถึงเมืองอัคระ เข้าที่พักโรงแรม เรดิสัน ทานอาหารเช้า และพักผ่อนเล็กน้อย 09.00 น. เดินทางไปเยี่ยมชม ทัชมาฮาล อนุสรณ์รักของพระเจ้า ชาห์เยฮัน กับพระนางมุมตัช 11.00 น. กลับไปทานอาหารเที่ยง 13.00 ไปเยี่ยมชมพระราชวังอัคราฟอร์ท พระราชวังอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ โมกุล [9] วันเสาร์ ที่ 11 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1) ทัชมาฮาล-เดลฮี 05.30 น. ทานอาหารเช้า และทำภารกิจส่วนตัว 07.00 น. เดินทางไปเมืองเดลฮี 11.00 น. ทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง 14.00 น. ถึงเมืองเมืองเดลฮี เมืองหลวงของอินเดีย หากมีเวลา จะนำคณะไปชมสถานที่ต่างๆที่สำคัญในเมืองนี่ เช่น วัดดอกบัว ภูเขาไกรลาสสถานที่ทรงแสดงสติปัฏฐาน 4 เป็นต้น ทานอาหารเย็นระหว่างทาง 19.00 น.เข้าพักที่โรงแรมคันทรี่อินน์ [10] วันอาทิตย์ ที่ 12 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 1) เดลฮี 07.00 น. อาหารเช้า พร้อมเก็บกระเป๋าขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อไป 1)เข้าชมวัดฮินดูบิลล่าเท็มเปิล ซึ่งเป็นวัดที่สวยงามวัดหนึ่งในเดลฮี 2) ชมอินเดียเกท 3)บ้านประธานาธิบดี 4) พิพิธภัณฑ์มหาตมคานธี เป็นต้น ได้เวลาอาหารเที่ยง ไปทานที่ภัตตาคาร 5) ชมพิพิธภัณฑ์เมืองเดลฮี ซึ่งเก็บรักษาพระธาตุไว้ให้สักการะอีกด้วย 12.30 น. มีเวลาอาจนำคณะไปชมสิ่งอื่นๆ อีกตามเวลาอันจะพึงมี และนำไปช้อบปิ้งที่ศูนย์การค้าพาลิกา พลาซ่า ตลาดใต้ดิน แถวถนนชันปาถอันเป็นย่านการค้าที่สำคัญของเดลฮีและมีสิ่งต่างๆให้ซื้อหากัน มากมาย 20.00 น. ไปทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารอีกแห่งหนึ่ง 21.30 น. เดินทางต่อไปสนามบินอินทิราคานธี สนามบินนานาชาติของเดลฮี พร้อมเช็คอิน [11] วันจันทร์ ที่ 13 ธันวาคม 2553 (ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 1) เดลฮี – สุวรรณภูมิ 01.30 น. เครื่องบิน เที่ยวบินที่ IT 025 สายการบินคิงฟิชเฌอร์ ออกจากสนามบินอินทิราคานธี สู่สนามบินสุวรรณภูมิ 07.15 น. เครื่องถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมเช็คเอาท์ และไปรับกระเป๋า แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาของตน ๆ ด้วยความสุขอิ่มบุญกันถ้วนหน้าและระลึกถึงกันโดยมิรู้ลืม สิ่งที่จะต้องเตรียม 1) เตรียมเพื่อเป็นผู้จะเดินทาง (เก็บเมื่อจอง) 1.1) หนังสือเดินทาง (กรณีอยู่ต่างประเทศ ให้แฟกซ์หน้า passport ที่มีภาพถ่ายและชื่อไปให้ก่อน แฟกซ์ หมายเลข 02-991-8271 1.2) เอกสารสำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด (โปรดเขียนเบอร์โทรศัพท์ลงในเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งลงไปด้วย เพื่อจะได้โทรกลับทันที เมื่อได้รับเอกสาร หรือ อีเมล แอดเดร็ส ก็ได้) 1.3) ภาพถ่าย 2 นิ้ว 5 ภาพ เพื่อทำวีซ่าเข้า 2 ประเทศ (กรณีที่ทำวีซ่ามาเองแล้ว ขอภาพถ่าย 1 ภาพ) 1.4) เงินมัดจำ 9,000 บาท (เก้าพันบาท) เมื่อจ่ายค่ามัดจำแล้ว จึงถือว่าจองแล้ว นะครับ เงินส่วนที่เหลือ จ่ายก่อนเดินทาง อย่างน้อย 15 วัน ครับ 1.5) เอกสาร 1.1) – 1.3) ให้ส่งไปที่ คุณราตรี ฉุยฉาย 10/12-13 ถ. คอนแวนต์ สีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 โทร.081-425-9350 และติดต่อสอบถามรายละเอียด ได้ที่นี่เช่นกัน 2) เตรียมเมื่อยามจะเดินทาง 2.1) ยาประจำตัว หรือยาแก้ไข้ เช่น ยาพารา 2.2) ผ้าถุงหนึ่งผืน (เฉพาะผู้หญิง) เผื่อต้องเข้าห้องน้ำในที่ที่ไม่มีห้องน้ำ 2.3) ไฟฉายเล็กๆ 1 กระบอก 3) ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าบริการท่านละ 39,000 บาท (สามหมื่นเก้าพันบาท) ราคานี้รวม ค่า ตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า ยานพาหนะในอินเดีย,อาหาร,ที่พัก,ภาษีสนามบิน, ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ,ค่าประกันอุบัติเหตุในวงเงิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) แต่ยังไม่รวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % เงิน มัดจำก็ดี เงินที่เหลือก็ดี ให้โอนเข้าบัญชีชื่อ นายสังคม แชเชือน ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางกอกน้อย เลขที่ 119-0-481-893 เท่านั้น เมื่อโอนแล้วให้แฟกส์ใบ เป-อินไปที่หมายเลข 02-991-8271 โปรดอย่าลืมเขียนชื่อผู้จ่ายลงไปในใบ เป-อิน ด้วย จะได้รู้ว่าใครโอนให้ และหากเขียนเบอร์โทรลงไปด้วย ก็จะดีมากๆ เพราะสามารถโทรตอบมาโดยเร็วได้ 4) แต่งกาย ตามความเหมาะสม แต่ควรมีชุดขาว 1 ชุด แต่งตอนไปสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ 5) รายการนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้บ้างตามความเหมาะสมของเวลา และสถานการณ์ ขอท่านที่คิดว่าจะร่วมเดินทางให้รีบจองนะครับ มิฉะนั้นอาจจะพลาดขบวน เพราะรับจำนวนจำกัด ติดต่อจอง รายการแสวงบุญทอดผ้าป่า 10 คืน 11 วัน 8 วัด ในดินแดนพุทธภูมิอินเดีย-เนปาล 3 – 13 ธันวาคม 2553 ได้ที่ ดร.สังคม แชเชือน โทร. 081-895-2009, 086-909-2109 หากติดต่อไม่ได้ โปรดโทร. 001-91-980-178-8965 (อยู่อินเดีย) หรือติดต่อที่ คุณราตรี ฉุยฉาย 081-425-9350 เว็บไซต์ http://www.sanggomtour.com sanggom_tour@hotmail.com
