พาโร - ทิมพู - วังดี - พูนาคา - พิชิตทักซัง จำนวนวัน : 5วัน 4คืน การเดินทาง : เครื่องบิน ช่วงวันเดินทาง 1 : 16-20 ธ.ค. 54 : ราคา 49,500 บาท วันแรก กรุงเทพฯ – พาโร (Alt; 2280m) – ทิมพู (Alt; 2320m) (54km/1 ½ hr) (L/D) 05:20 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 แถว W ประตู 10 เช็คอิน สายการบิน Druk Air สายการบินแห่งชาติภูฏาน กรุงเทพฯ-พาโร เที่ยวบินที่ KB 127 07:20 เหินฟ้าสู่เมืองพาโร 08:50 เครื่องแวะรับ/ส่งผู้โดยสารที่ Dacca, Bangladesh เป็นเวลา 30นาที 09:20 เครื่องบินเหินฟ้าจากสนามบิน Dacca 10:20 เดินทางถึงเมืองพาโร (2,280m) ตอนนำเครื่องลงท่านจะได้สัมผัสกับขุนเขาอันกว้างใหญ่ใกล้แค่เอื้อม ดุจดั่งเข้าสู่อ้อมกอดของหุบเขาแห่งเมืองพาโร สำหรับท่านที่รักการถ่ายภาพ ความอลังการของทิวทัศน์จะทำให้ท่านได้ภาพที่งดงาม อัศจรรย์ที่สุดภาพหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ท่านจะได้รับการประทับตราวีซ่าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่พาโร เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พาท่านแลกเงินเป็นเงินนูของภูฎานที่สนามบินหลังจากรับกระเป๋า เจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับอยู่ที่สนามบิน หลังอาหารกลางวัน นำท่านเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Ta Dzong ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในเอเชีย จากนั้น นำท่านเยี่ยมชมป้อม Rimpung Dzong (ป้อมแห่งอัญมณี) เดินทางต่อไปยังเมืองทิมพู เมืองหลวงของภูฎาน (54กม 1ชม.ครึ่ง) ถึงเมืองทิมพู แวะที่ทำการไปรษณีย์ ที่ท่านนักสะสมแสตมป์สามารถหาซื้อแสตมป์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกได้ที่นี่ หรือท่านที่อยากซื้อกลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกก็ได้ เพราะแสตมป์ภูฎานนั้นนักสะสมรู้ดีว่าเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก จากนั้นพาท่านชมวิวเมืองทิมพู ที่ Buddha Gang ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในภูฎาน อยู่บนยอดเขาที่เป็นจุดที่เชื่อว่าเป็นแหล่งรวมพลังของประเทศ จากนั้นแวะชมความศรัทธาของชาวทิมพูต่อศาสนาที่ Memorial Chorten อนุสรณ์สถาน ที่สร้างในปี 1974 เพื่อเป็นอนุสรณ์สำหรับอดีตกษัตริย์ภูฏานองค์ที่สามที่ล่วงลับ ที่นี่ท่านจะได้เห็นชาวภูฎานและนักแสวงบุญจำนวนมากมานั่งสวดมนต์หมุนกงล้อมนตรา และเดินเวียนเทียนรอบสถูป จากนั้นรับประทานอาหารไทยที่ร้านอาหารไทยแห่งเดียวในภูฎาน หลังอาหารเย็น นำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก อิสระเดินเล่นชมเมืองทิมพู คืนนี้พักในเมืองทิมพู (Alt; 2320m) - Phuntsho Pelri Hotel หรือ เทียบเท่า วันที่สอง เที่ยวงานวันชาติ – ทิมพู (Alt; 2320m) (B/L/D) หลังจากอาหารเช้า พาท่านเยี่ยมชมพิพิทธภัณฑ์มรดกพื้นบ้านภูฎานเป็นบ้านเก่าอายุกว่า 200 ปี ภายในจำลองวิถีชีวิตของชาวภูฎานในอดีตไว้อย่างครบครัน จากนั้นไปยัง Zoring Chuksum โรงเรียนสอนศิลปะหัตถกรรม 13 ชนิด ไปชมว่ารัฐบาลทำอย่างไรเพื่ออนุรักษ์และสานต่อศิลปะหัตถกรรมสำคัญของภูฎานให้คงอยู่ ท่ามกลางกระแสความทันสมัยที่หลั่งไหลมาจากโลกภายนอก จากนั้นเดินทางไปยัง Changlimithang Stadium เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันชาติภูฎาน เป็นวันเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์องค์ที่ 1 ของภูฎาน ผู้คนเดินจากหมู่บ้านทั้ง 7แห่งในเขตทิมพูต่างมาร่วมงานในครั้งนี้ ด้วยชุดประจำชาติ ประจำเผ่าที่สวยที่สุด กษัตริย์องค์ปัจจุบันจะเสด็จมาร่วมงานพร้อมกับราชวงศ์ จะมีการแสดงระบำพื้นบ้านประกอบ จากนั้นกษัตริย์จะทรงกล่าวสุนทรพจน์ และมีพิธีประกาศเกียรติคุณของผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศ จากนั้นนำท่านสู่ป้อมทาชิโช ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่ใช้ทรงงานของกษัตริย์ ประกอบไปด้วยท้องพระโรง และศาสนสถานอยู่ภายใน เนื่องจากที่นี่เป็นเขตพระราชฐานจึงไม่อนุญาตให้สวมเสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ แล้วไปเที่ยวชมสัตว์ประจำชาติภูฏานที่ สวนสัตว์ทาคิน ชมตัวทาคิน สัตว์ประจำชาติของประเทศภูฏาน จากนั้นไปเยี่ยมชม วัดแม่ชี จากนั้นพาท่านเที่ยวชมตลาดสุดสัปดาห์ที่ชาวภูฎานจากทั่วทุกสารทิศจะนำผลผลิตไม่ว่าจะทางเกษตรกรรมและหัตถกรรมมาขายกันที่ตลาดแห่งนี้ ซึ่งจัดขึ้นแค่วันสุดสัปดาห์เท่านั้น พาท่านซื้อของที่ระลึก สินค้าหัตถกรรม ผ้าทอพื้นเมือง ที่ร้าน Choki Arts & Craft จากนั้นเดินเล่นรอบตัวเมืองทิมพู คืนนี้พักในเมืองทิมพู (Alt; 2320m) - Phuntsho Pelri Hotel หรือ เทียบเท่า วันที่สาม ทิมพู (Alt; 2320m) – พูนาคา – วังดี (Alt.1240m) (70km/3hrs) (B/L/D) หลังอาหารเช้าไปชมวิวที่ หอคอย BBS ซึ่งเป็นที่หนุ่มสาวขนานนามว่าเป็น สถานที่โรแมนติก หรือ Romantic Point เป็นอีกจุดที่เราจะได้บันทึกภาพเมืองทิมพูทั้งเมือง จากนั้นมุ่งหน้าสู่ Dochula Pass ที่ระดับความสูง 3150 เมตรจากระดับน้ำทะเล รับประทานอาหารกลางวันพร้อมดื่มด่ำธรรมชาติทิวทัศน์ของภูเขาหิมาลัยด้านตะวันตกอันตระการตา พร้อมยอดเขาต่างๆเรียงราย รวมไปถึงยอดเขาที่สูงที่สุดอย่าง Chomolhari (7328 เมตร) ทิวทัศน์ระหว่างทางจะเต็มไปด้วยความสวยงามของต้นไม้ในเขตอัลไพน์สลับกับพืชเขตร้อน ชม 108 สถูป สถานที่แห่งนี้สร้างขึ้นเมืองปีค.ศ.2005 เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับทหารวีรชนชาวภูฏานที่เสียชีวิตจากสงครามอัสสัม ชมวัด Drukwangyel Lhakhang ที่พระราชินีในรัชกาลที่ 4 ทรงสร้างถวายแด่กษัตริย์องค์ที่ 4 ห้องด้านหน้าวัดมีรูปเจ้าชายและเจ้าหญิงทุกพระองค์ในรูปของนางฟ้าและเทวดาทรงดนตรี ภายในวัดตกแต่งสวยงามด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวประวัติของประเทศภูฎานและพระราชกรณียกิจที่สำคัญของกษัตริย์องค์ที่ 4 เมื่อถึงเมืองวังดี พาท่านเยี่ยมชม ป้อมวังดีโพดรัง จากนั้นเดินทางสู่เมืองพูนาคาเมืองหลวงเก่ากว่า 300ปีของภูฏาน ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ ระยะทาง 13 กิโลเมตรจากเมืองวังดี เยี่ยมชมพูนาคาซอง หนึ่งในป้องปราการที่สวยงามที่สุดในภูฏาน เป็นป้อมที่สร้างเป็นอันดับสองของภูฏาน ในอดีตเมื่อครั้งเมืองพูนาคายังเป็นเมืองหลวง ป้อมแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล ปัจจุบันเป็นที่พักในฤดูหนาวของพระชั้นผู้ใหญ่ ป้อมนี้ตั้งอยู่ ณ บริเวณที่แม่น้ำ Phochu และ แม่น้ำ Mochu ไหลมาบรรจบกัน จากนั้นเดินขึ้นเนินไปชมวัดชิมิลาคัง วัดที่อยู่บนยอดเนิน ใจกลางหุบเขา สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1499 โดยลามะที่มีชื่อเสียงมาก นามว่าท่าน Lama Drukpa Kunley ที่วัดแห่งนี้ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากใครมาอธิฐานขอบุตรก็จะได้สมใจ ค้างคืนที่เมืองวังดี (Alt.1240m) – Dragon’s Nest Resort หรือ เทียบเท่า วันที่สี่ วังดีโปดรัง (Alt.1240m) – พาโร (Alt;2,280เมตร) (B/L/D) หลังอาหารเช้า พาท่านเดินทางไปยังเมืองพาโร ระหว่างทางแวะจิบน้ำชา และชมเทือกเขาหิมาลัยที่ Dochula Resort อยู่เหนือ Dochula Pass จากนั้นเดินทางต่อจนถึงเมืองพาโร พาท่านขึ้นเขาสักการะวัดทักซัง หรือ วัดถ้ำเสือ วัดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในภูฎาน วัดทักซัง หรือ วัดถ้ำเสือ เป็นศาสนสถานที่มหัศจรรย์ เพราะตัววัดเหมือนเกาะอยู่บนหน้าผาหินที่มีความสูงถึง 900 เมตร วัดจากที่ราบพาโร ตำนานกล่าวไว้ว่าท่าน Guru Padmasambhava หรือ พระปทุมสมภพในภาคยักษ์ หรือพระศาสดาองค์ที่สองตามความเชื่อของชาวภูฏาน ได้เหาะมาบนหลังเสือตัวเมีย มายังหน้าผาแห่งนี้เพื่อทำวิปัสนากรรมฐาน จึงได้ชื่อว่าถ้ำเสือ หลังจากที่สำเร็จสมาธิแล้ว ท่านจึงได้สร้างศาสนสถานแห่งนี้ขึ้น ชาวภูฏานส่วนใหญ่มีความปรารถนาแรงกล้าที่จะได้ขึ้นมาแสวงบุญที่ Taksang สักครั้งหนึ่งในชีวิต การปีนเขาจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง (ไป-กลับ) มีบริการให้เช่าม้าได้ที่ตีนเขา ค่าบริการท่านละประมาณ USD$12-15 (ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์) ช่วงเย็นรับประทานอาหารเย็นที่บ้านชาวนา หรือที่ภัตตาคาร คืนนี้พักค้างคืนที่เมืองพาโร (Alt; 2280m) - Tashi Namgay Resort หรือ เทียบเท่า หมายเหตุ มีบริการการอาบน้ำแร่หิน หรือ Stone bath หรือเรียกว่า Chu Tsen ที่ขึ้นชื่อของภูฎานอีกด้วย โดยจะนำหินจากแม่น้ำที่มีแร่ธาตุอุดมอยู่มากมายมาแช่ลงในน้ำอุ่นจนกลายเป็นน้ำแร่ และให้ท่านลงไปแช่ อาบในอ่างไม้ผสมกับสมุนไพรตามสไตล์ชาวภูฎาน โดยเชื่อว่าจะช่วยบำรุงผิวพรรณ และรักษาโรคผิวหนังได้ดี (หากสนใจจะแช่น้ำแร่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมท่านละประมาณ USD$12-15โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง-หนึ่งชั่วโมง) แนะนำให้เตรียมผ้าถุงไปเปลี่ยน วันที่ห้า พาโร - กรุงเทพ หลังอาหารเช้า นำท่านสู่สนามบินนานาชาติพาโร 09:30 เช็คอินที่สนามบินพาโร สายการบิน Druk Air เที่ยวบินที่ KB 130 พาโร-กรุงเทพฯ 11:30 เครื่องบินเหินฟ้าจากสนามบินพาโร 12:00 เครื่องแวะรับ/ส่งผู้โดยสารที่ Bagdoggra, India เป็นเวลา 30นาที 16:30 เดินทางถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ