โปรแกรมขายวัสดุก่อสร้าง โปรแกรมใช้สำหรับ เครื่องเดียว ราคา 19,000 บาท โปรแกรมใช้สำหรับ หลายเครื่อง ราคา 28,000 บาท คุณสมบัติโปรแกรม: ระบบบัญชีแยกประเภท ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจาก ระบบซื้อ, ระบบขาย, การเงิน และระบบอื่น ๆ 1. จัดเตรียมผังบัญชีตัวอย่างไว้ให้ และสามารถ แก้ไข เพิ่มเติม ลบทิ้ง เพื่อให้ตรงกับระบบงานของบริษัทได้ 2. สามารถสร้างงบการเงินได้ทุกรูปแบบ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจแต่ละประเภท อาทิเช่น - ในงบเปรียบเทียบสามารถนำข้อมูลมาแสดงเปรียบเทียบได้สูงสุด 18 คอลัมน์ - ข้อมูลที่นำมาแสดงสามารถสร้างสูตรเพื่อคำนวณ หรือดึงมาจากฟิลด์ข้อมูลที่กำหนดให้ - ในแต่ละคอลัมน์สามารถเลือกให้แสดงข้อมูลเฉพาะแผนกตามที่ต้องการ - สามารถแสดงข้อมูลในรูปอัตรา % โดยใช้ยอดรวมของข้อมูลเป็นฐานการคำนวณ - ในงบเดียวกัน ในแต่ละบรรทัด หรือแต่ละบัญชี สามารถดึงข้อมูลจากคนละฟิลด์มาแสดงได้ - สามารถกำหนดข้อความ(Wording)ที่จะแสดงในรายละเอียดหน้างบได้ตามต้องการ 3. มีระบบควบคุมเงินสดย่อย หรือเงินทดลองจ่าย สามารถดูความเคลื่อนไหวของเงินสดได้ตลอดเวลา 4. รายงานสมุดเงินสดย่อย สามารถกำหนดชื่อค่าใช้จ่ายที่แสดงในหัวรายงานของแต่ละคอลัมน์ได้เอง 4 ชื่อ 5. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบใบเบิกเงินสดย่อยและใบเบิกชดเชยเงินสดย่อย ได้ตามความต้องการ 6. สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายที่มีใบกำกับภาษีหลายใบ ในใบสำคัญจ่าย(Voucher)ใบเดียวกัน 7. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบใบสำคัญ (Voucher) ได้ตามความต้องการ 8. สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งแบบภงด.3 และภงด.53 ตรงตามแบบกรมสรรพากร 9. สามารถลำดับ (Running) เลขที่ใบสำคัญในสมุดรายวันได้ 5 แบบ ได้แก่ 0=ป้อนเลขที่เอง, 1=YMMDDxx, 2=YMMxxxx, 3=YYMMxxxx, 4=YYMMDDxx (Y=ปี, M=เดือน, D=วันที่เอกสาร, x=Running Number) 10. สามารถกำหนดผังบัญชีให้แยกตามแผนกได้ไม่จำกัด (Cost Center) 11. มีระบบล็อคงวดบัญชี ทำให้ป้องกันการเพิ่มหรือแก้ไขข้อมูลในงวดที่ปิดบัญชีไปแล้ว 12. สามารถกำหนดวันเริ่มต้นรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท ตามวันเดือนที่แจ้งกับสรรพากร 13. สามารถป้อนข้อมูลของปีถัดไปได้ไม่จำกัดโดยไม่ต้องรอการปิดบัญชีสิ้นปี ทำให้การทำงานต่อเนื่องไม่ล่าช้าและเมื่อทำการปิดสิ้นปี โปรแกรมก็จะนำข้อมูลเข้าไปในงวดที่ถูกต้องให้โดยอัตโนมัติ 14. สามารถเก็บข้อมูลรายวันได้สูงสุด 24 งวด และงวดที่ 24 ไม่จำกัดเวลา ขึ้นอยู่กับผู้ใช้กำหนด 15. สามารถดึงบัญชีต้นแบบ (Template) มาลงรายการรายวัน ทำให้รวดเร็ว และช่วยบุคคลากรที่มีความรู้ทางด้านบัญชีน้อย สามารถบันทึกบัญชีได้ถูกต้อง 16. สามารถกำหนดยอดประมาณการ (Budget) ของแต่ละบัญชี ได้ 12 เดือน เพื่อแสดงในงบประมาณการ 17. สามารถบันทึกรายการด้านเดบิทและเครดิตได้ไม่จำกัดจำนวนรายการ (Compound Entry) 18. โปรแกรมจะทำการตรวจสอบยอดเดบิทและเครดิตให้สมดุลย์ ก่อนบันทึก 19. สามารถเลือกวิธีบันทึกบัญชีสินค้าได้ทั้งแบบ Periodic และ Perpetual 20. สามารถกำหนดสมุดรายวันได้ไม่จำกัดจำนวน 21. สามารถปรับเปลี่ยนเลขที่บัญชีได้ตลอดเวลา 22. สามารถค้นหาข้อมูลตามเลขที่บัญชีหรือชื่อบัญชี และมี Look up ในกรณีที่จำไม่ได้ 23. ในใบสำคัญ(Voucher)แต่ละใบ สามารถบันทึกหมายเหตุเพิ่มเติมได้ 5 บรรทัดๆละ 50 ตัวอักษร 24. สามารถบันทึกเอกสารอ้างอิงที่ทำการปรับปรุงตามหลักบัญชีตามประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 63 25. เมื่อมีการลงบัญชีภาษีซื้อหรือภาษีขาย โปรแกรมจะนำไปบันทึกในแฟ้มภาษีซื้อหรือภาษีขายให้ทันที 26. เมื่อมีการลงบัญชีภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โปรแกรมจะนำไปบันทึกในแฟ้มภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายให้ทันที 27. เมื่อมีการลงบัญชีเช็ครับหรือเช็คจ่ายล่วงหน้า โปรแกรมจะนำไปบันทึกในทะเบียนเช็ค ให้ทันที 28. สามารถพิมพ์งบทดลองได้ทั้งแบบเต็ม (แสดงยอดยกมา,ยอดเคลื่อนไหว,ยอดคงเหลือ), แบบย่อ (แสดงเฉพาะยอดเคลื่อนไหว), แบบแยก 3 เดือน, แบบแยก 12 เดือน และแบบเต็ม/ย่อแยกตามแผนก ระบบสินทรัพย์ถาวร 1. สามารเลือกวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ได้ 3 วิธี ได้แก่ - วิธีเส้นตรง (Straight-Line Method) - วิธีลดยอด (The Constant Percentage of Declining Book-Value Method) - กำหนดค่าเสื่อมราคาเอง 2. สามารถจัดแยกกลุ่มการบันทึกบัญชีทรัพย์สิน ได้ตามต้องการ 3. การคิดค่าเสื่อมราคาสามารถเลือกได้ 2 แบบ ได้แก่ คิดรายเดือน หรือคิดรายปี 4. มีรายงานรายละเอียดค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาที่หักได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ สามารถนำส่งได้ทันที 5. สามารถลงบัญชีค่าเสื่อมแยกตามแผนกได้ 6. เมื่อเริ่มนำข้อมูลเข้าระบบ สามารถเลือกได้ว่า จะให้ระบบคิดค่าเสื่อมทันที หรือ ยังไม่คิด (ถ้ายังไม่คิดขณะบันทึก ระบบจะทำงานได้เร็วกว่า เมื่อเรียบร้อยจึงไปสั่งคำนวณค่าเสื่อมราคาทั้งแฟ้ม) 7. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสทรัพย์สินได้ตลอดเวลา 8. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินทรัพย์หรือชื่อสินทรัพย์ และมี Look up ในกรณีที่จำไม่ได้ ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกส่งมาจากระบบซื้อและระบบขายสินค้า 1. สามารถกำหนดคลังสินค้าได้หลายคลัง โดยไม่จำกัดจำนวน 2. สามารถเลือกวิธีการคิดต้นทุนได้ 2 แบบ ได้แก่ - แบบต้นทุนถัวเฉลี่ย (Moving Weighted Average) - แบบเข้าก่อนออกก่อน (FIFO = First-In-First-Out) 3. รองรับการขายสินค้าเป็นชุด (Component set=สินค้าที่มีส่วนประกอบมากกว่า 1 ชิ้น) เพียงแต่กำหนดว่าสินค้าชุดนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เมื่อบันทึกการขายโปรแกรมจะตัดส่วนประกอบในสต๊อคให้เองอัตโนมัติ 4. ในสินค้าชุดสามารถเลือกตัดส่วนประกอบและพิมพ์ส่วนประกอบในบิลได้ เพียงแต่กำหนดเป็นชุดพิเศษ 5. สามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงราคาขายที่ตัวสินค้าชุด หรือที่ส่วนประกอบ 6. ในการซื้อสินค้าชุด โปรแกรมจะทำการแตกย่อยเป็นส่วนประกอบและเพิ่มในสต็อคให้ทันที 7. การเพิ่มสินค้าชุดใหม่ที่มีส่วนประกอบคล้ายกับสินค้าชุดเดิม สามารถก๊อปปี้สินค้าชุดเดิมมาแก้ไข-เพิ่มเติมได้ทันที 8. สินค้าชุด 1 ชุด มีส่วนประกอบได้ 999 รายการ 9. สามารถกำหนดหน่วยนับซื้อ, หน่วยนับขาย ต่างกับหน่วยนับหลักได้ (หน่วยนับที่เก็บไว้ในสต๊อคและเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด) แต่ต้องมีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กับหน่วยนับหลัก และมีทศนิยมได้ถึง 4 ตำแหน่ง 10. สินค้าที่เก็บเป็นหน่วยย่อย แต่สามารถพิมพ์รายงานแสดงหน่วยได้ 2 ระดับ เช่น ยอดคงเหลือ 5 ลัง 4 ซอง 11. มีตารางกำหนดอัตราส่วนต่อหน่วยนับหลักไว้ล่วงหน้า เพื่อสะดวกในการเรียกใช้ และควบคุม 12. ระบบสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อหรือนำเข้า มาเฉลี่ยเป็นต้นทุนสินค้าได้ เช่น ค่าขนส่ง, ค่าภาษีสรรพสามิต, อากรขาเข้า ฯ 13. สอบถามยอดคงเหลือในสต๊อคได้ตลอดเวลา ที่หน้าจอไหนก็ได้(กด Alt-F4) ทำให้ลูกค้าได้คำตอบทันทีโดยไม่ต้องรอนาน และไม่จำเป็นจะต้องออกจากงานที่เรากำลังทำอยู่ 14. สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ยอดสินค้าติดลบได้หรือไม่ ถ้าติดลบได้ (เปิดบิลไปก่อน) เมื่อบันทึกรับสินค้าเข้า โปรแกรมจะกระทบยอดสินค้าและต้นทุนย้อนหลังให้เองโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะมีการเปิดบิลขายไปแล้วซักกี่ใบก็ตาม 15. สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้บุคลากรท่านใดทำการตัดสินค้าและติดลบในสต็อคได้บ้าง 16. สามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งสินค้าสำเร็จรูป, วัตถุดิบ, สินค้ากึ่งสำเร็จรูป, สินค้าประกอบ และสินค้าบริการ 17. สามารถกำหนดราคาขายของสินค้าได้ 5 ระดับ และพิมพ์รายงาน Price List ได้ 18. สามารถกำหนดราคาเสริม สำหรับจัดโปรโมชั่น โดยกำหนดเงื่อนไข (เช่นซื้อ 10 ชิ้น ลด 2%) และกำหนดช่วงวันตามที่เราต้องการ (เช่น ช็อค!ลดกระหน่ำ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 กรกฎมคม 2544 นี้เท่านั้น) 19. สามารถบันทึกการเบิกหรือรับเข้าสต๊อคที่ไม่เกี่ยวกับการซื้อหรือขาย เช่น เบิกวัตถุดิบไปผลิต, รับสินค้าเข้าจากการผลิตฯ 20. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบของเอกสารการเบิกหรือรับสินค้าเข้า ที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ 21. มีระบบควบคุมการตรวจนับสินค้า เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และถูกต้อง 22. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสสินค้าได้ตลอดเวลา 23. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสสินค้า หรือชื่อสินค้า และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้ 24. มีแฟ้มเก็บสินค้าที่มี Serial No. หรือ Part No. (แยกต่างหาก ไม่เชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ) 25. สามารถจัดแยกกลุ่มการคำนวณต้นทุนสินค้าว่ากลุ่มใดคำนวณแบบ FIFO และกลุ่มใดคำนวณแบบถัวเฉลี่ยภายในบัญชีสินค้าชุดเดียวกัน (สต๊อคเดียวกัน) 26. สามารถจัดแยกกลุ่มการบันทึกบัญชีสินค้า และบัญชีวัตถุดิบ ได้ตามต้องการ 27. สามารถกำหนดจุดสั่งซื้อ (Re-order) แยกตามเดือน เพื่อขายงานโครงการ หรือจัดโปรโมชั่นตามเทศกาล 28. สามารถกำหนดจุดสูงสุดของสินค้า (Maximum) แยกตามเดือนหรืองวด ได้ตามต้องการ 29. เตรียมคอลัมน์ วันที่ สำรองไว้ 2 คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม 30. เตรียมคอลัมน์ ข้อความ สำรองไว้ 4 คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม 31. เตรียมคอลัมน์ จำนวน (ตัวเลข) สำรองไว้ 1 คอลัมน์ต่อ 1 สินค้า เผื่อรองรับในกรณีที่ต้องการเพิ่มเติม 32. สามารถควบคุมระบบสินค้าด้วยรหัสแท่ง (Barcode) และเครื่องอ่านบาร์โค้ด 33. รองรับสินค้าที่อยู่ในกลุ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 34. สินค้าในแต่ละคลังสามารถแสดง ปริมาณ, ต้นทุน, มูลค่าสินค้า, ปริมาณค้างรับ, ปริมาณค้างส่ง, ชั้นที่เก็บสินค้า และแผนก ซึ่งทำให้ธุรกิจบางประเภทได้ข้อมูลสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง สามารถทราบวัสดุคงเหลือและต้นทุนของวัสดุที่นำไปใช้ในแต่ละไซด์งานได้ทันที 35. สามารถเลือกได้ว่าเมื่อทำการขายหรือเบิกสินค้า ที่ยอดคงเหลือต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ ต้องการให้เตือนหรือไม่ ระบบการจองสินค้าและการจัดจำหน่าย 1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ 3 รูปแบบ ตัวอย่างเช่น ใบเสนอราคา, บิลเงินสด และเฉพาะใบสั่งขาย, ใบกำกับสินค้า/ใบกำกับภาษี สามารถกำหนดได้ถึง 9 แบบ 2. สามารถบันทึกขายสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และที่ได้รับยกเว้นภาษี ไว้ในบิลใบเดียวกันได้ 3. สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้บุคลากรท่านใดเข้าไปแก้ไขราคาขายในขณะที่กำลังบันทึกการขายได้บ้าง 4. รองรับการขายที่มีการรับเงินมัดจำล่วงหน้า และพิมพ์ใบเสร็จ/ใบกำกับภาษี ตอนรับเงินมัดจำ 5. ในอินวอยส์ 1 ใบ สามารถบันทึกรายการสินค้าได้สุงสุด 999 รายการ และพิมพ์ใบต่อเนื่องเรียงตามลำดับรายการให้เอง และเลือกได้ว่าต้องการป้อนลำดับที่เอง หรือให้โปรแกรมจัดลำดับที่ให้ 6. สามารถเปลี่ยนชื่อสินค้าในใบกำกับสินค้าได้ตามต้องการ 7. สามารถขายสินค้าด้วยหน่วยนับที่แตกต่างกับหน่วยนับที่เก็บในสต๊อคได้ เพียงแต่มีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน 8. รองรับการขายสินค้าที่มีของแถม และในรายงานวิเคราะห์การขาย สามารถแยกยอดออกให้เห็นได้ชัดเจนว่า ปริมาณสินค้าที่ขาย เป็นเงินจำนวนเท่าไร? และส่วนของแถมเท่าไร ? 9. หลังจากบันทึกใบอินวอยส์ สามารถทราบกำไรขั้นต้นต่ออินวอยส์ได้ทันที 10. สามารถบันทึกส่วนลดแต่ละรายการสินค้า และส่วนลดจากยอดรวม ซึ่งลดเป็นจำนวนเงิน(บาท), เปอร์เซ็นต์และเป็นเปอร์เซ็นต์หลายชั้น เช่น 5+3+2 ( ลด 5% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 3% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 2%) 11. สามารถกำหนดได้ว่าถ้ามีการขายสินค้าต่ำกว่าจุดสั่งซื้อ ต้องการให้เตือนหรือไม่ 12. สามารถกำหนดได้ว่าถ้ามีการขายสินค้าต่ำกว่าราคาทุน ต้องการให้เตือนหรือไม่ 13. สามารถกำหนดคลังสินค้าที่ต้องการขายได้ ทั้งในใบสั่งขาย และใบอินวอยส์ 14. มีระบบเตือน เมื่อทำการบันทึกขายเชื่อ หรือใบสั่งขายเกินวงเงินที่อนุมัติไว้ 15. การอนุมัติลูกค้าเกินวงเงิน สามารถเลือกได้ว่าจะให้อนุมัติตอนออกเอกสาร หรือจะให้เอกสารไปก่อนแล้วอนุมัติทีหลัง 16. สามารถกำหนดวงเงินขายเชื่อ และระดับผู้อนุมัติวงเงิน ได้ตามต้องการถึง 5 ระดับ 17. มีระบบควบคุมการจองสินค้า เพื่อทยอยส่งสินค้าตามคิว, นำเข้าสินค้า/ผลิตสินค้าตามยอดสั่งจอง (Order) 18. ในใบสั่งขายใบเดียวกัน สามารถกำหนดวันที่ส่งสินค้าแยกกันคนละวันได้ตามวันเวลาที่ลูกค้าสั่ง 19. สามารถทำการยกเลิกยอดที่ค้างส่งในใบสั่งขายได้ทั้งใบได้ 20. สามารถออกใบกำกับสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าจะส่งสินค้าครบตามยอดสั่งจอง 21. รองรับธุรกิจการขายบริการ (เกณฑ์เงินสด) และจะปรับยอดภาษีขายให้ เมื่อบันทึกรับชำระเงิน 22. รองรับธุรกิจฝากขาย โดยใช้คลังสินค้าเป็นสถานที่ฝากขายสินค้า 23. ในใบอินวอยส์สามารถเพิ่มคำอธิบายแต่ละรายการสินค้าได้จำนวน 10 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร และเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร 24. ในใบเสนอราคาสามารถกำหนดสถานะของลูกค้า ช่วยให้การติดตามผลการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น 25. สามารถเซ็ตใบเสนอราคาให้เป็นต้นแบบ Price List เพื่อดึงมาพิมพ์ใบแจ้งหนี้ได้ตลอดเวลา ทำให้อำนวยความสะดวกสำหรับธุรกิจ เช่าอพาร์ทเม้นท์, ค่าสมาชิกรายเดือน จะได้ไม่ต้องคีย์รายการเดิมซ้ำทุกเดือน 26. สามารถโอนใบเสนอราคา ไปเป็นใบสั่งขาย หรือ ใบอินวอยส์ ได้ทันทีโดยไม่ต้องคีย์ข้อมูลใหม่อีกครั้ง 27. สามารถกำหนดเหตุผลในการยกเลิกใบเสนอราคาได้ตามต้องการ 28. สามารถเพิ่มแฟ้มหลักของสินค้า, ลูกค้า, พนักงานขาย และเขตการขายได้ในขณะบันทึกรายวันขาย 29. เมื่อบันทึกการขาย โปรแกรมจะตั้งลูกหนี้, ตัดสต๊อค, บันทึกภาษีขาย, ลงบัญชี และเก็บสถิติการขายให้ทันที ระบบควบคุมลูกหนี้และรายได้อื่น ๆ ข้อมูลลูกหนี้จะถูกส่งมาจากระบบขายสินค้า 1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ เช่น ใบวางบิล, ใบเสร็จรับเงิน, ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี, ใบลดหนี้/รับคืนสินค้า และใบเพิ่มหนี้ 2. สามารถบันทึกรายได้ ที่นอกเหนือจากลูกหนี้จากการขายสินค้า 3. สามารถรับชำระหนี้ได้อย่างสะดวกทั้งการรับชำระแบบเต็มบิล หรือรับชำระบางส่วน 4. การรับชำระหนี้สามารถชำระโดย เงินสด, เช็ค(กี่ใบก็ได้), บัตรเครดิต(เหมือนเช็ค), โอนเงินเข้าบัญชี, ดร๊าฟ, หักภาษี ณ ที่จ่าย, ส่วนลด และกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5. เพื่อลดโอกาสการเกิดหนี้สูญ ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์สภาพหนี้จากงบอายุหนี้ ทั้งแบบสรุป และแบบละเอียด และสามารถกำหนดช่วงการวิเคราะห์อายุหนี้ได้เอง 6. มีรายงานใบวางบิลตามวันที่นัดรับเงิน เพื่อโทรไปเตือนลูกค้าให้เตรียมเช็ค และใช้วางแผนเส้นทางของพนักงานเก็บเงิน 7. ในใบลดหนี้/รับคืนสินค้า สามารถเลือกได้ว่าจะหักจากใบกำกับสินค้าเดิม, เก็บไว้หักเมื่อรับชำระหนี้ หรือจ่ายเป็นเงินสด 8. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้ จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร 9. มีใบตรวจสอบวงเงินสินเชื่อของลูกค้า เพื่อเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาเรื่องเพิ่มวงเงิน 10. สามารถพิมพ์รายชื่อของลูกค้าลงบนสติกเกอร์และจ่าหน้าซองจดหมายได้ 11. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสลูกค้า, รหัสพนักงานขาย และรหัสรายได้อื่น ๆ ได้ตลอดเวลา 12. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสลูกค้า หรือชื่อบริษัท และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้ 13. ในรายละเอียดพนักงานขาย สามารถกำหนดอัตราคอมมิชชั่นและเป้าการขายได้ 24 งวด เพื่อคำนวณหายอดคอมมิชชั่น 14. ยอดขายของพนักงานขาย สามารถแยกได้ตามวันที่รับเงิน และวันที่เช็คผ่าน เพื่อนำยอดไปคิดคอมมิชชั่น 15. สำหรับธุรกิจบริการ สามารถพิมพ์ใบกำกับภาษี ให้กับลูกค้าได้ทันที ที่รับชำระเงิน ระบบจัดซื้อสินค้าและการรับสินค้า 1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ เช่น ใบสั่งซื้อ และใบรับสินค้า 2. รองรับภาษีซื้อแบบที่ขอคืนได้ไม่เต็มจำนวน โดยโปรแกรมจะเฉลี่ยภาษีซื้อที่ขอคืนได้และภาษีซื้อที่ขอคืนไม่ได้ ให้เองอัตโนมัติ 3. วันที่ที่ได้รับสินค้า เป็นคนละวันกับวันที่ของใบกำกับภาษีซื้อได้ 4. สามารถบันทึกรับสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)อัตราปกติ และกลุ่มที่ได้รับยกเว้นในใบรับสินค้าใบเดียวกันได้ 5. สามารถบันทึกการซื้อที่มีการจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าได้ 6. สามารถบันทึกส่วนลดแต่ละรายการสินค้า และส่วนลดจากยอดรวม ซึ่งลดเป็นจำนวนเงิน(บาท), เปอร์เซ็นต์และเป็นเปอร์เซ็นต์หลายชั้น เช่น 5+3+2 ( ลด 5% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 3% เหลือเท่าไหร่ลดอีก 2%) 7. เปิดโอกาสให้แก้ไขยอดภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ให้ตรงกับใบกำกับภาษีของผู้จำหน่ายได้ 8. สามารถซื้อสินค้าด้วยหน่วยนับที่แตกต่างกับหน่วยนับที่เก็บในสต๊อคได้ เพียงแต่มีอัตราส่วนที่สัมพันธ์กัน 9. ในใบสั่งซื้อ สามารถบันทึก ขนส่งโดย, สถานที่ที่จะให้ส่งสินค้า และคลังที่ทำการสั่งซื้อได้ 10. ในใบสั่งซื้อใบเดียวกัน สามารถกำหนดวันที่รับสินค้าแต่ละตัวแยกกันคนละวันได้ตามต้องการ ประโยชน์ก็คือ สามารถทยอยส่งสินค้าตาม Order ของลูกค้าได้ 11. สามารถบันทึกการรับสินค้า โดยอ้างอิงถึงใบสั่งซื้อสินค้า หรือไม่ต้องเปิดใบสั่งซื้อก่อนก็ได้ 12. ในใบสั่งซื้อ โปรแกรมจะควบคุมยอดที่สั่งซื้อและค้างรับ และสามารถรับสินค้าตามที่สั่งได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง จนกว่าจะรับสินค้าครบตามยอดสั่งซื้อ 13. มีรายงานสินค้าที่ถึงจุดสั่งซื้อ (เพื่อเตือนฝ่ายจัดซื้อสั่งของเพื่อให้ทันขาย) แยกตามหมวดสินค้าและผู้จำหน่าย 14. สามารถสั่งซื้อสินค้าตามยอดสั่งจอง(Order) ช่วยลดภาระการสต๊อคสินค้า โดยดูจากรายงานสินค้าค้างส่ง 15. สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบตามยอดสั่งจองสินค้า(Order) โดยใช้สินค้าชุดช่วยคำนวณหายอดวัตถุดิบที่จะต้องใช้ในการผลิต 16. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายรายการสินค้าได้ จำนวน 10 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร 17. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้ จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร 18. สามารถเพิ่มสินค้า และผู้จำหน่าย ได้ในขณะบันทึกรายการซื้อ 19. สามารถบันทึกรายการซื้อสินค้าได้สุงสุด 999 รายการ/เอกสาร 20. รองรับธุรกิจการซื้อบริการ (เกณฑ์เงินสด) และจะปรับยอดภาษีซื้อให้ เมื่อบันทึกจ่ายชำระหนี้ 21. เมื่อบันทึกรับสินค้าโปรแกรมจะตั้งเจ้าหนี้, เพิ่มสต๊อค, บันทึกภาษีซื้อ, ลงบัญชี และเก็บสถิติการซื้อให้ทันที ระบบควบคุมเจ้าหนี้และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ข้อมูลเจ้าหนึ้จะถูกส่งมาจากระบบซื้อสินค้า 1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบในแต่ละเอกสารที่แตกต่างกันได้ถึง 3 รูปแบบ เช่น ใบรับวางบิล, ใบจ่ายเงิน, ใบลดหนี้/ส่งคืนสินค้า, ใบเพิ่มหนี้ และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย 2. สามารถบันทึกค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากเจ้าหนี้จากการซื้อสินค้า 3. สามารถจ่ายชำระหนี้ได้อย่างสะดวกทั้งการจ่ายชำระแบบเต็มบิล หรือจ่ายชำระบางส่วน 4. การจ่ายชำระหนี้สามารถชำระโดย เงินสด, เช็ค(กี่ใบก็ได้), บัตรเครดิต(เหมือนเช็ค), โอนเงิน, ดร๊าฟ, หักภาษี ณ ที่จ่าย, ส่วนลด และกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 5. สามารถเรียกดูยอดบิลที่ยังค้างจ่ายของเจ้าหนี้แต่ละราย (ทั้งแบบสรุปและละเอียด) เพื่อใช้ประมาณการรายจ่าย โดยกำหนดช่วงเวลาที่บิลจะครบกำหนดได้เอง เช่น จะต้องจ่ายภายใน 7 วัน 15 วัน 30 วัน เป็นเงินเท่าไร 6. มีรายงานใบรับวางบิลตามวันที่นัดจ่ายเช็ค ทำให้ทราบรายจ่ายล่วงหน้า เพื่อเตรียมทำจ่ายได้ถูกต้อง 7. ในเอกสารแต่ละใบสามารถเพิ่มคำอธิบายหมายเหตุได้ จำนวน 5 บรรทัดๆ ละ 50 ตัวอักษร 8. สามารถพิมพ์รายชื่อของผู้จำหน่ายลงบนสติกเกอร์และจ่าหน้าซองจดหมาย 9. สามารถปรับเปลี่ยนรหัสผู้จำหน่าย และรหัสค่าใช้จ่าย ได้ตลอดเวลา 10. สามารถค้นหาข้อมูลตามรหัสผู้จำหน่าย หรือชื่อบริษัท และมี Look up ในกรณีที่จำรหัสไม่ได้ 11. สามารถพิมพ์หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ทั้งแบบ ภงด.3 และภงด.53 ถูกต้องตามแบบกรมสรรพากรกำหนด 12. ในใบลดหนี้/ส่งคืนสินค้า สามารถเลือกได้ว่า จะหักจากใบรับสินค้าเดิม หรือเก็บไว้หักเมื่อจ่ายชำระหนี้ หรือ รับเป็นเงินสด ระบบควบคุมเช็คและเงินฝากธนาคาร เช็ครับและเช็คจ่ายจะถูกส่งมาจากการรับชำระหนี้ และจ่ายชำระหนี้ 1. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบเช็คที่แตกต่างกันได้ 6 ธนาคาร 2. การรับชำระ/จ่ายชำระหนี้ด้วยเช็ค โปรแกรมจะนำเช็คไปเก็บไว้ในทะเบียนเช็ค เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ดูแลและตรวจสอบ 3. มีรายงานเช็ครับเรียงตามวันที่เช็ค เพื่อช่วยเตือนว่ามีเช็คใบไหนที่ถึงกำหนดนำฝาก 4. สามารถพิมพ์ใบนำฝากเช็ค(Pay in Slip) แทนการเขียนด้วยมือ ทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น 5. สามารถบันทึกการผ่านเช็คทั้งชุดที่นำฝาก หรือผ่านเช็คทีละใบก็ได้ 6. สามารถเก็บประวัติเช็คคืน (เช็คเด้ง) เพื่อเก็บไว้พิจารณาการให้เครดิต 7. มีรายงานเช็คจ่ายเรียงตามเลขที่เช็ค สำหรับตรวจสอบกับสมุดเช็คแต่ละใบที่เซ็นต์จ่ายไป 8. มีรายงานเช็คจ่ายเรียงตามวันที่เช็ค เพื่อเตือนให้ฝ่ายการเงินทราบว่าจะมีเช็คใบไหนบ้างและจำนวนเงินเท่าไหร่ ? ที่จะตัดจากบัญชี จะได้เตรียมโอนเงินจากบัญชีออมทรัพย์เข้าบัญชีกระแสรายวันได้ทันเวลา 9. สามารถกำหนดให้ระบบทำการผ่านเช็คจ่ายให้เองอัตโนมัติ (ไม่ต้องเสียเวลาผ่านเอง) 10. สามารถบันทึกรายการที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินฝากธนาคาร เช่น ฝาก/ถอนเงินสด, โอนเงินระหว่างธนาคาร, จ่ายค่าธรรมเนียม ฯ และพิมพ์รายงานเพื่อนำมากระทบยอดกับ Bank Statement ได้ (ทำ Bank Reconcile) 11. สามารถถอนเงินสดด้วยเช็คของบริษัท และบันทึกการขายลดเช็คได้ ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ข้อมูล จะถูกส่งมาจากระบบการซื้อสินค้า, ค่าใช้จ่ายอื่นๆ, ลดหนี้/ส่งคืนสินค้า, ขายสินค้า, รายได้อื่นๆ, ลดหนี้/รับคืนสินค้า และระบบบัญชี 1. สามารถบันทึกการซื้อ/ขายได้ทั้งแบบ ราคารวมภาษี (Inclusive) และราคาแยกภาษี (Exclusive) รวมทั้งรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นภาษี 2. สามารถพิมพ์รายงานภาษีซื้อ, ภาษีขาย และมูลค่าฐานภาษี ที่มีข้อมูลครบถ้วนตามที่กรมสรรพากรกำหนด และนำตัวเลขมากรอกในแบบ ภ.พ.30 พร้อมนำส่งทุกวันที่ 15 ได้ทันที 3. รองรับธุรกิจที่ขอคืนภาษีซื้อได้ไม่เต็มจำนวน โปรแกรมจะพิมพ์รายงานภาษีซื้อแยกเป็น 2 ยอด คือ ยอดที่ขอคืนได้ และยอดที่ขอคืนไม่ได้ 4. รองรับกรณีที่มีใบกำกับภาษีมาถึงล่าช้าแต่ไม่เกิน 6 เดือน และกรณีเกิน 6 เดือน ระบบจะแยกรายงานภาษีซื้อออกเป็น 2 รายงาน ได้แก่ รายงานภาษีซื้อ (ยื่นปกติ) และรายงานภาษีซื้อ (ยื่นเพิ่มเติม) 5. รายงานภาษีซื้อ สามารถเลือกพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์และจอภาพได้ทั้ง 2 แบบ ได้แก่ - เรียงตามวันที่ ที่ได้รับใบกำกับภาษี ตามประกาศกรมสรรพากรฉบับที่ 89 มีผลตั้งแต่ 29 เม.ย. 2542 - เรียงตามวันที่ใบกำกับภาษี ตามประกาศฉบับเก่า (จะค้นหาใบกำกับภาษีในรายงานได้ง่ายกว่า) 6. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบรายงานภาษีซื้อที่แตกต่างกันได้ 6 แบบ และมีต้นฉบับที่ช่วยให้แก้ไขได้ 7 แบบ 7. สามารถพิมพ์และแก้ไขรูปแบบรายงานภาษีขายที่แตกต่างกันได้ 6 แบบ และมีต้นฉบับที่ช่วยให้แก้ไขได้ 7 แบบ 8. สามารถเลือกวิธีการบันทึกบัญชีภาษีมูลค่าเพิ่มได้ 2 แบบ คือ แบบเกณฑ์สิทธิ และแบบเกณฑ์เงินสด 9. สามารถพิมพ์รายงานภาษีซื้อ, ภาซื้อขาย และแบบยื่น ภงด. แยกตามแผนกได้ 10. สามารถพิมพ์แบบยื่น ภงด.3, ภงด.53 ซึ่งตรงตามแบบสรรพากรกำหนด และแนบนำส่งทุกวันที่ 7 ของเดือนได้ทันที 11. สามารถกำหนดประเภทเงินได้ และอัตราที่หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ล่วงหน้า ทำให้เวลาที่ทำใบหัก จะได้ไม่ผิดพลาด ระบบวิเคราะห์การขาย ทำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขายสินค้า และจัดทำเป็นรายงานทั้งแบบสรุปและแบบละเอียด ข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้ 1. ประวัติการขายแยกตามลูกค้า,ตามสินค้า และตามพนักงานขาย 2. ยอดขายแยกตามเขตการขาย แจกแจงตามพนักงานขาย, ลูกค้า ทั้งแบบละเอียดและสรุป 3. สรุปยอดขายประจำงวด 4. สรุปยอดขายเชื่อแยกตามลูกค้า (เปรียบเทียบ 12 งวด) 5. รายงานการจัดลำดับยอดขาย แยกตามมูลค่าสินค้า, ตามปริมาณ, ตามมูลค่าของแต่ละสินค้า+ลูกค้า, ตามปริมาณของแต่ละสินค้า+ลูกค้า, ตามมูลค่าของแต่ละสินค้า+พนักงานขาย, ตามปริมาณของแต่ละสินค้า+พนักงานขาย, ตามลูกค้า และตามพนักงานขาย 6. สรุปยอดขาย(ทราบกำไรขั้นต้นทันที) แยกตามหมวดสินค้า, ตามคลัง, ตามลูกค้า, ตามพนักงานขาย(เทียบกับเป้าการขาย), ตามพนักงานขาย+ลูกค้า, ตามเขตการขาย+พนักงานขาย และตามเขตการขาย+ลูกค้า ระบบวิเคราะห์การซื้อ ทำ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อสินค้า และจัดทำเป็นรายงานทั้งแบบสรุปและแบบละเอียด ข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อใช้ในการวางแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในอนาคต ประกอบด้วยรายงานดังต่อไปนี้ 1. ประวัติการซื้อ แยกตามผู้จำหน่าย และสินค้า 2. สรุปยอดซื้อประจำงวด 3. สรุปยอดซื้อเชื่อ แยกตามผู้จำหน่าย (เปรียบเทียบ 12 งวด) 4. สรุปยอดซื้อ แยกตามหมวดสินค้า, ตามคลัง และตามผู้จำหน่าย ระบบรักษาความปลอดภัย 1. ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่ม ได้ตามต้องการ ทำให้ป้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปดูข้อมูลที่เป็นความลับ 2. ผู้ใช้แต่ละคน สามารถตั้งรหัสผ่าน (PassWord) ของตนเองได้ 3. สามารถแบ่งระดับชั้นของผู้ใช้งานได้ว่าเป็น พนักงาน, ผู้จัดการแผนก หรือ ผู้ดูแลระบบ 4. สามารถกำหนดสิทธิการใช้ข้อมูลได้ทุกเมนูย่อย แม้แต่เมนูย่อย/รายงาน/งบการเงิน ที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นเอง 5. การเพิ่ม แก้ไข ยกเลิก ลบ สามารถกำหนดได้ว่า ถ้าผู้ใช้เข้าไปทำงานแล้วต้องการให้เก็บประวัติไว้หรือไม่ 6. การพิมพ์เอกสาร สามารถกำหนดได้ว่า ต้องการให้ใครพิมพ์ดูได้เฉพาะหน้าจอ หรืออนุญาตให้ใครพิมพ์ออกเครื่องพิมพ์ได้ 7. สามารถกำหนดการตรวจสอบแบบเข้มงวด ทำให้ง่ายสำหรับผู้ดูแลระบบ โดยไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปกำหนดสิทธิการใช้งานเพิ่มอีก โปรแกรมจะจัดการบันทึกเหตุการณ์ของผู้ใช้งานรายนั้นเก็บไว้ให้ทุกครั้ง 8. สามารถกำหนดการยกเลิกการใช้รหัสผู้ใช้บางรหัสเป็นการชั่วคราว อาจเนื่องมาจาก พนักงานผู้นั้นลาออก หรือลาพักร้อนเป็นเวลานาน ๆ แต่ยังไม่ต้องการลบรหัสผู้ใช้รหัสนี้ทิ้ง 9. มีแฟ้มบันทึกเหตุการณ์ การทำงานของผู้ใช้ทุกคน ที่เข้ามาใช้งานในระบบ สำหรับผู้ดูแลระบบใช้ในการตรวจสอบการทำงานของผู้ใช้แต่ละคน 10. สามารถกำหนดสิทธิให้กับผู้ใช้แต่ละราย ว่าใครมีอำนาจในการอนุมัติ (รับรอง) เอกสารได้บ้าง 11. เอกสารสำคัญที่ต้องการให้ผู้มีอำนาจรับรองก่อน สามารถกำหนดเงื่อนไขการรับรองเอกสารได้ 3 วิธี คือ 1. พิมพ์ก่อนรับรองทีหลัง 2. รับรองแล้วพิมพ์ 3. อะไรก่อนก็ได้ 12. สามารถกำหนดได้ว่า ต้องการให้บุคคลใดมีอำนาจในการพิมพ์เอกสารสำคัญซ้ำได้บ้าง
เบอร์ติดต่อ : ช่างเอ็มคอมพิวเตอร์